กรุงไทยเฉลย คนละครึ่ง กับ ช้อปดีมีคืน ระหว่างแจกเงิน 3,000 บาท ให้ 10 ล้านคน กับนำค่าใช้จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท ไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 63 แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน
เพจเฟซบุ๊กธนาคารกรุงไทย โพสต์ข้อความเปรียบเทียบระหว่างโครงการ “คนละครึ่ง” และ “ช้อปดีมีคืน” โดยมีรายละเอียดดังนี้
1 คน 1 สิทธิ์ เลือกได้โครงการเดียว ระหว่าง “คนละครึ่ง” VS “ช้อปดีมีคืน” ใครเหมาะกับโครงการไหน โครงการไหนคุ้มค่ามากกว่า หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ร่วมไขข้อข้องใจไปกับโพสต์นี้ได้เลย
หัวข้อ | คนละครึ่ง | ช้อปดีมีคืน |
คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ร่วมโครงการ | สัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไปไม่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (จำนวน 10 ล้านคน หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด) | ผู้เสียภาษีปี 2563ไม่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน |
ลงทะเบียน | ต้องลงทะเบียนที่ www.คนละครึ่ง.com | ไม่ต้องลงเพียงขอใบกำกับภาษี |
สิทธิ์ประโยชน์ | รัฐบาลช่วยจ่ายค่าสินค้าอาหาร เครื่องดื่มคนละ 3,000 บาท จำกัดสิทธิ์ไม่เกิน 150 บาทต่อวัน | นำค่าใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการ ไปลดหย่อนภาษีได้ตามจริงสูงสุด 30,000 บาท |
สามารถใช้จ่ายกับอะไรได้บ้าง | สินค้า อาหาร เครื่องดื่ม กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ (ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ ลอตเตอรี่ และบริการ) | สินค้าและบริการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม สินค้า OTOP และหนังสือ (ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ลอตเตอรี่ น้ำมัน ค่าที่พัก ตั๋วเครื่องบิน) |
ระยะเวลาใช้จ่าย | 23 ต.ค.-31 ธ.ค. 63 | 23 ต.ค.-31 ธ.ค. 63 |
เหมาะกับใคร | รายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษีซื้อสินค้าจากร้านค้าขนาดเล็ก ตลาด ร้านโชห่วยมีค่าลดหย่อนภาษีในส่วนอื่นๆ อยู่แล้วทำให้ไม่ต้องเสียภาษี | มีรายได้สุทธิเกิน 500,000 บาทซื้อของในห้าง/ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีแผนซื้อของมูลค่าสูงปลายปีนี้ |
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook