หน้าแรก การเมือง ‘เสรีพิศุทธ์’ แจงเหตุผล ส่งตัวเต็ง! ‘สมชัย’ ร่วม กมธ.ศึกษา แก้รัฐธรรมนูญ

‘เสรีพิศุทธ์’ แจงเหตุผล ส่งตัวเต็ง! ‘สมชัย’ ร่วม กมธ.ศึกษา แก้รัฐธรรมนูญ

579
แชร์ข่าวนี้

“เสรีพิศุทธ์” ส่ง “สมชัย” เป็น กมธ.ศึกษา แก้ รธน.เพราะมีความตั้งใจ เชื่อแก้รัฐธรรมนูญลบอำนาจ ส.ว. ไม่ได้ ชี้ “พีระพันธุ์” เต็งนั่งประธานกมธ. ต้องฟังผู้มีอำนาจสั่งการอยู่แล้ว

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. เวลา 9.00 ที่รัฐสภา เกียกกาย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ ชหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเสนอชื่อนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า

เรื่องนี้ไม่มีอะไร เนื่องจากพรรคตนมี ส.ส.น้อย จึงต้องช่วยกันทำงานทั้งในและนอกสภาฯ หากเรานำส.ส.ไปทำหน้าที่อื่นทั้งหมด จะทำให้เกิดผลกระทบต่อการบริหารพรรคและการทำงานในคณะกรรมาธิการสามัญคณะอื่นๆ

เราจึงต้องหาคนที่มีความรู้ และความสามารถจริงเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมาธิการวิสามัญฯ ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่านายสมชัย มีคุณสมบัติจริงๆ ทั้งนี้ก่อนที่จะมีการเสนอชื่อก็ได้มีการสอบถามรายละเอียดต่างๆ ซึ่งนายสมชัยมีความตั้งใจที่จะช่วยแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า พรรคมีความคาดหวังว่าเมื่อให้นายสมชัยไปทำหน้าที่แล้วจะให้เข้าไปผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องใดเป็นพิเศษ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นเพียงขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จากนั้นจะมีการหารือกันว่ามีรัฐธรรมนูญมาตรใดที่สมควรได้รับการแก้ไข ซึ่งอาจจะตรงกับพรรคการเมืองฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการเสนอชื่อนายสมชัยก็ได้มีการพิจารณาคนอื่นๆ รวมถึงคนในพรรคเสรีรวมไทยด้วย

ต่อข้อถามว่า เมื่อดูชื่อคณะกรรมาธิการทั้ง 49 คนแล้ว มองว่าการทำงานจะออกมาในทิศทางใด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าเสียงของฝ่ายค้านน้อยกว่าของฝ่ายรัฐบาล จึงต้องดูว่ามีความตั้งใจจะทำงานให้กับประชาชนหรือไม่

ซึ่งคิดว่าประชาชนที่ติดตามการเมือง จะเห็นว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ไม่ดีทุกมาตรา แต่กระนั้นยังมีอีกหลายมาตราที่ต้องได้รับการแก้ไข ส่วนจะผ่านไปได้หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างที่ผ่านมามีการพยายามจะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาเพื่อศึกษามาตรา 44 ซึ่งความจริงเป็นความเดือดร้อนของประชาชน

และฝ่ายค้านพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแก้ไขปัญหา แต่ฝ่ายรัฐบาลกลับไม่ยอม เพราะหากมีการแก้ไขก็ต้องเรียกผู้ออกคำสั่งมาชี้แจง นั่นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทำให้อะไรต่อมิอะไรไม่สุจริต เอาไว้เลือกตั้งครั้งหน้าค่อยไปกำหนดทิศทางกันใหม่และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมีเสียงน้อยกว่าฝ่ายรัฐบาลจะทำให้การทำงานเป็นอย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าน่าจะดีกว่าตอนพิจารณามาตรา 44 เพราะญัตติเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เราจะทำเต็มที่เพื่อประชาชน แต่คิดว่าอะไรที่เป็นอำนาจของเขา เขาก็คงไม่ยอม เช่น การแก้ไขให้ส.ว.ไม่มีอำนาจเลือกนายกฯ ในส่วนนี้เขาคงไม่มีทางยอม

เมื่อถามว่านายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯมีความหวังแค่ไหน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายพีระพันธุ์ ได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปเพื่อไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ แล้ว

ถือว่าประกาศตัวชัดเจนแล้วว่าอยู่ฝั่งใด ย่อมต้องทำตามที่ผู้มีอำนาจสั่งการ ขณะที่การเข้าเป็นกรรมาธิการวิสามัญของนายอุดม รัฐอมฤต อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวไม่ขอแสดงความคิดเห็นกรณีนี้เพราะพรรคเล็กเสนอได้แค่คนเดียว


แชร์ข่าวนี้