“ประวิตร” โต้ “จุรินทร์” วิจารณ์ใช้คนละครึ่งหาเสียง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความมั่นใจในการเลือกตั้งซ่อม หลังลงพื้นที่ปราศรัยด้วยตนเอง ว่า เรื่องนี้แล้วแต่ประชาชนและที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปราศรัยที่จ.สงขลา ถึงกรณีที่พรรคการเมือง ใช้นโยบายคนละครึ่งในการหาเสียง ว่าเป็นการลัก วิ่ง ชิง ปล้น กลางแดด

โดยพลเอกประวิตร ระบุว่า ตนก็บอกว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล และพูดว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้างไม่ได้บอกว่าเป็นนโยบายของพรรค ยกตัวอย่างเช่น โครงการคนละครึ่ง และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเชื่อว่าการปราศรัยโต้กันไปมาจะไม่ทำให้เกิดปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ขอผู้สื่อข่าวอย่าถามเรื่องนี้

ส่วนกรณีที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ปราศรัยระบุว่าจะให้ผลประโยชน์ นั้น ขึ้นอยู่กับ กกต. ตนเองไม่ได้กังวลอะไรและไม่ได้มีการตักเตือนให้ระมัดระวังเรื่องการหาเสียงมากขึ้น เพราะเขาไม่ได้ว่าอะไรเขาพูดถึงแค่คนจน คนรวยอย่างเดียว และไม่ได้สัญญาอะไรซึ่งฝ่ายตรวจกฎหมายของพรรคตรวจสอบแล้วไม่มีอะไร แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับกกต.

ส่วนกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ท่าทางของร.อ.ธรรมนัส ขณะปราศรัยลักษณะคล้ายกับการควักและจ่ายเงินนั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ขอให้ไปถามร.อ.ธรรมนัส เองส่วนในช่วงโค้งสุดท้ายจะมีการปรับ ความเข้มข้นในการหาความเข้มข้นในการหาเสียงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ไม่มี แล้วแต่ประชาชน ว่าจะเลือกใคร

ส่วนจะมีบัตรเด็ดในการปราศรัยช่วงโค้งสุดท้ายหรือไม่ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ไม่มีหมัดเด็ดอะไร มีแค่หมัดที่ทำงาน และผลงานที่มีอยู่เท่านั้นส่วนจะมีการลงพื้นที่ปราศรัยช่วยหาเสียงในพื้นที่เขตหลักสี่ในวันสุดท้าย ก็แล้วแต่ว่าพรรคจะว่าอย่างไร ส่วนขึ้นเวทีปราศรัยแล้วรู้สึกอย่างไรนั้นตนไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะไม่ได้เป็นนักการเมืองโดยกำเนิด และตนเองก็ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไร พูดตามความจริงทุกอย่าง

พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความ ตำหนิพรรคพลังประชารัฐที่สนับสนุนนายสิระ เจนจาคะ ทั้งที่เป็นผู้มีคดีติดตัว หรือคนที่ทุจริต โดยพล.อ.ประวิตร ระบุว่า นายสิระ ไม่ใช่คนที่ลงสมัครเลือกตั้ง แต่เป็น นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ซึ่งเป็นภรรยา ที่ลงสมัครเลือกตั้ง ซึ่งพรรคจะสนับสนุนใครก็ได้ที่ไม่มีเรื่องมีราว ซึ่งก็แล้วแต่กรรมการบริหารพรรค โดยนายกรัฐมนตรีไม่มีการกำชับอะไรเพิ่มเติม นายกรัฐมนตรี ก็ทำงานของท่านไป จะมาเกี่ยวอะไรเรื่องพรรคเป็นเรื่องของตน เล่นการเมืองเป็นเรื่องของตนท่านก็ทำงานของท่านไป

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews