หน้าแรก กีฬา “ช้าง”มอบ1 ล้านร่วมยินดี “ช้างศึก”คว้าแชมป์อาเซียน

“ช้าง”มอบ1 ล้านร่วมยินดี “ช้างศึก”คว้าแชมป์อาเซียน

236
แชร์ข่าวนี้

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565 ณ ห้องประชุม เมืองไทยประกันภัย คุณสุรพล อุทินทุ ผู้บริหารสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง ร่วมมอบเงินสนับสนุนทีมชาติไทย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ “ทัพช้างศึก” หลังคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 เป็นสมัยที่ 6 ได้สำเร็จ โดยมีคุณนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นผู้รับมอบ

คุณสุรพล อุทินทุ ผู้บริหารสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ “เครื่องดื่มตราช้าง” ได้สนับสนุนวงการฟุตบอลไทย ตั้งแต่ระดับรากหญ้า เยาวชน อาชีพ จนถึงระดับทีมชาติ โดยทุ่มเม็ดเงินมหาศาลในการสร้างรากฐาน และร่วมพัฒนาวงการฟุตบอลไทยแบบทั้งระบบ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กว่า 5,000 ล้านบาท โดยเฉพาะการสนับสนุนสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จำนวนกว่า 1,600 ล้านบาท ซึ่งยังได้ก่อตั้งกองทุนพัฒนาเยาวชนช้างศึกไทย เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน สร้างรากฐาน และพัฒนานักฟุตบอลไทยในระดับเยาวชนโดยเฉพาะ เพื่อที่จะเติบโตไปอย่างมั่นคงและมีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยในอนาคต จำนวน 100 ล้านบาท อีกทั้งยังได้มอบเงินสนับสนุนเพิ่มเติมในวาระต่างๆเป็นพิเศษอีกกว่า 30 ล้านบาท”

“สำหรับการแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ทางเครื่องดื่มตราช้าง รู้สึกยินดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ทีมชาติไทย คว้าแชมป์อีกสมัยได้สำเร็จ หลังจากล่าสุดที่คว้าแชมป์ไปเมื่อปี 2016 ซึ่งผลงานในครั้งนี้ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้แฟนบอลชาวไทยที่ต่างส่งแรงเชียร์แรงใจให้ช้างศึกไทย #เล่นไม่เลิก จนในที่สุดได้คว้าแชมป์มาครองเป็นสมัยที่ 6 ได้สำเร็จ ทางช้างจึงขอมอบเงินสนับสนุนเพิ่มเติม จำนวน 1,000,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ทัพช้างศึกไทย #เล่นไม่เลิก และเราเหล่าช้างศึกเบอร์12 ก็จะเชียร์ไม่เลิกต่อไปในทุกการแข่งขัน”

“เครื่องดื่มตราช้าง” ผู้สนับสนุนหลักวงการฟุตบอลไทย พร้อมที่จะพัฒนาและสนับสนุนวงการฟุตบอลไทยต่อไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เดินหน้าต่อสัญญาสนับสนุนสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯต่อเนื่อง 10 ปี ในปี 2560 – 2569 เป็นจำนวนเงินกว่า 1,100 ล้านบาท เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายตามที่ ช้างศึกเบอร์ 12 ทุกคนคาดหวังเอาไว้

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้