เอเซอร์เปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ในตระกูล Vero ที่มุ่งเน้นการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเอเซอร์ในการสนับสนุนการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น ด้วยการนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภค องค์กรธุรกิจ และสถาบันต่างๆ ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยโน้ตบุ๊ก Aspire Vero รุ่นใหม่ รวมไปถึงเดสก์ท็อปออลอินวัน (AIO) จอภาพ โปรเจคเตอร์
และอุปกรณ์ต่อพ่วง ใช้พลาสติกรีไซเคิลที่ผลิตจากพลาสติกที่ผ่านการใช้งานจากผู้บริโภค (Post-Consumer Recycled – PCR) รวมถึงขยะพลาสติกในทะเล (Ocean-bound Plastic – OBP) และบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิล ในผลิตภัณฑ์พิวเตอร์สามารถถอดแยกชิ้นส่วนได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการซ่อมแซมหรืออัพเกรด และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
เจอร์รี่ เกา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการร่วมของเอเซอร์ กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่ได้สานต่อภารกิจ Earthion ของเราในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นที่แปลกใหม่และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์ Vero นอกเหนือจากพีซีและจอมอนิเตอร์รุ่นใหม่แล้ว กลุ่มผลิตภัณฑ์ Vero ของเรายังได้ขยายไปสู่อุปกรณ์ต่อพ่วงและโปรเจคเตอร์ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อความยั่งยืน ที่จะช่วยลดปริมาณขยะและการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยไม่มีการลดทอนประสิทธิภาพของอุปกรณ์”
จอช นิวแมน รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายนวัตกรรมโมบายล์ กลุ่มธุรกิจระบบประมวลผลไคลเอ็นต์ของอินเทล กล่าวว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ อินเทลได้ประกาศนโยบายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือศูนย์ และได้รับแรงสนับสนุนจากความพยายามร่วมกันของเครือข่ายระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีในการสร้างพีซีที่ยั่งยืนสำหรับอนาคต ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับเอเซอร์ เราได้พัฒนาอุปกรณ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ อย่างเช่นผลิตภัณฑ์ Vero รุ่นล่าสุดที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel Core”
Aspire Vero
Aspire Vero (AV14-51) รุ่นใหม่มาพร้อมกับจอแสดงผล Full HD ขนาด 14” พร้อมคุณสมบัติด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเฉกเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนหน้า แต่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุด 12th Gen Intel® Core™ และนอกเหนือจากสี Cobblestone Grey ที่เป็นซิกเนเจอร์แล้ว ยังมีสี Mariana Blue ที่สวยงามให้เลือกอีกด้วย นอกจากนี้ยังประกอบด้วยกราฟิก Intel® Iris® Xe และ Wi-Fi 6 รองรับงานสร้างสรรค์และการเชื่อมต่อ และเสริมด้วยพอร์ตต่างๆ ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย เช่น Thunderbolt™ 4/USB Type-C และพอร์ต USB 3.2 Gen1 Type-A สองพอร์ต ซึ่งหนึ่งในนั้นสามารถใช้ชาร์จอุปกรณ์มือถือแม้ในขณะที่คอมพิวเตอร์ปิดเครื่องอยู่
ส่วน Aspire Vero (AV15-52) ประกอบด้วยจอแสดงผล Full HD ขนาด 15” ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel Core เช่นเดียวกับรุ่น AV14-51 ช่วยยกระดับประสิทธิภาพของแอพรุ่นล่าสุดที่รองรับการทำงานและความบันเทิง นอกจากนี้ยังมีพอร์ต USB 3.2 Type-A Gen1 สองพอร์ต และพอร์ต Thunderbolt 4/USB Type-C เพื่อการเชื่อมต่อความเร็วสูง ช่วยให้ผู้ใช้เลื่อนดูเว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ควบคู่ไปกับการชาร์จอุปกรณ์มือถือ แล็ปท็อปรุ่นนี้มีให้เลือกสองสี ได้แก่ Starry Black และสีดั้งเดิมอย่าง Cobblestone Grey และมีกล้อง Full HD ที่รองรับการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์คุณภาพสูงสำหรับการติดต่อสื่อสารและการประสานงานร่วมกัน
อุปกรณ์ดังกล่าวได้รับการออกแบบร่วมกับอินเทล และเป็นไปตามข้อกำหนดของ Intel Evo ทั้งในส่วนของสเปคฮาร์ดแวร์ของอินเทล และคุณสมบัติต่างๆ ที่สำคัญ เช่น ความรวดเร็วในการตอบสนอง การปลุกระบบแบบทันที อายุแบตเตอรี่ การชาร์จไฟด่วน และการทำงานร่วมกันแบบอัจฉริยะ
Aspire Vero รุ่น 14” และ 15” ประกอบด้วยแทร็คแพด OceanGlass™ ที่ทำจากขยะพลาสติกในทะเล และเช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้าตัวเครื่องของ Aspire Vero รุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นใช้พลาสติกรีไซเคิลที่ผลิตจากพลาสติกที่ผ่านการใช้งานจากผู้บริโภค (PCR) 30% ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง 21% สำหรับการผลิตตัวเครื่อง
ส่วนขอบจอของแล็ปท็อปใช้พลาสติก PCR 30% และปุ่มคีย์บอร์ดใช้พลาสติก PCR 50% ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในการผลิตคอมพิวเตอร์ได้มากยิ่งขึ้น และไม่มีการใช้สีเคลือบบนตัวเครื่อง นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงกระบวนการอัพเกรดและซ่อมแซมให้ง่ายดายยิ่งขึ้น เพื่อยืดอายุการใช้งานของแล็ปท็อป โดยแผงปิดด้านล่างสามารถถอดออกได้อย่างง่ายดายด้วยการคลายสกรูยึดแบบมาตรฐาน เพื่อเปลี่ยน RAM และ SSD
บรรจุภัณฑ์ด้านในของแล็ปท็อปมีลักษณะเป็นกล่องอเนกประสงค์ที่ออกแบบอย่างชาญฉลาด โดยแผ่นกระดาษด้านในสามารถพับเป็นที่รองแล็ปท็อปรูปทรงสามเหลี่ยม บรรจุภัณฑ์ที่มีลักษณะโดดเด่นนี้ทำหน้าที่ปกป้องอุปกรณ์ โดยทำจากกระดาษรีไซเคิล 85% ขณะที่ซองใส่แล็ปท็อปใช้พลาสติกรีไซเคิลจากอุตสาหกรรม (Industrial Recycled Plastic – PIR) 100% และยังมีแผ่นพลาสติกรีไซเคิล PIR 100% ที่ใช้คั่นกลางระหว่างหน้าจอแล็ปท็อปและคีย์บอร์ด
Acer Veriton Vero All-In-One
Acer Veriton Vero (VVZ4694G) เดสก์ท็อปออลอินวันที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับองค์กรธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงผู้ใช้งานที่ทำงานจากที่บ้านที่มองหาระบบประมวลผลสมรรถนะสูงที่มีดีไซน์แบบประหยัดพื้นที่ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวและสวยสง่ามาพร้อมจอแสดงผล Full HD IPS ขนาด 24” รองรับมุมรับชมที่กว้าง และมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 88% ด้วยดีไซน์ขอบจอที่บางเฉียบ สามารถติดตั้งบนผนังโดยใช้ตัวยึด VESA เพื่อประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงานมากยิ่งขึ้น
เดสก์ท็อปออลอินวัน Acer Veriton Vero ประกอบด้วยวัสดุไซเคิล PCR 30% รวมถึงคีย์บอร์ดและเมาส์ก็ใช้วัสดุ PCR เช่นกัน ส่วนบรรจุภัณฑ์สามารถรีไซเคิลได้ 100% และแผงปิดด้านหลังเป็นแบบไม่มีสกรูยึด จึงสามารถถอดออกได้อย่างง่ายเพื่อการอัพเกรดหรือซ่อมแซม
ด้วยขุมพลังที่เพียงพอสำหรับการรองรับแอพด้านการทำงานและความบันเทิงรุ่นใหม่ Acer Veriton Vero มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel® Core™ i9[1] พร้อมด้วย NVIDIA GeForce® MX550 GPUs และหน่วยความจำ Dual-Channel DDR4 3200 MHz สูงสุด 64 GB นอกจากนี้ยังมี Wi-Fi 6E (802.11ax) ซึ่งให้การเชื่อมต่อที่ไว้ใจได้ รองรับการติดต่อสื่อสารอย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด และพอร์ต USB 3.2 Gen 2×2 Type-C รองรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง 20 Gbps เพื่อการดาวน์โหลดที่ฉับไว และมี M.2 SSD สองตัวสำหรับการจัดเก็บข้อมูลสูงสุด 2 TB นอกจากนั้น BlueLightShield ยังให้ตัวเลือกระดับการกรองแสงสีฟ้า โดยลดการปล่อยแสงสีฟ้าได้สูงสุด 30% จึงช่วยปกป้องดวงตาของผู้ใช้งาน
ปัจจุบันการปกป้องข้อมูลสำคัญนับเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ Veriton Vero จึงมาพร้อมกับ Windows Hello เครื่องสแกน IR สำหรับการสแกนใบหน้า และยังมี Trusted Platform Module (TPM) 2.0 ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เซ็นเซอร์อัจฉริยะ Tobii Aware จะล็อคและเบลอหน้าจอโดยอัตโนมัติ เมื่อมีผู้ใช้คนอื่นพยายามที่จะเข้าถึงระบบ และกล้องเว็บแคม 5 MP แบบในตัวมีแผงปิดสำหรับการปกปิดข้อมูลลับ โดยกล้องดังกล่าวสามารถปรับหันไปทางผู้ใช้สำหรับวิดีโอคอลล์ หรือหันไปทางห้องเพื่อแสดงภาพกลุ่มคนและภาพบุคคลสำหรับการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นหมู่คณะ
จอมอนิเตอร์ Vero
จอมอนิเตอร์ Vero IPS สองรุ่นใหม่ ได้แก่ จอ FHD Acer CB273 ขนาด 27” และจอ FHD Acer B247Y G ขนาด 23.8” มาพร้อมกับดีไซน์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วยพลาสติก PCR 85% และพลาสติก OBP 5% จอ Acer CB273 แสดงผลสีได้อย่างละเอียดแม่นยำตามมาตรฐาน Delta E
โปรเจคเตอร์ Vero PD2325W
Acer Vero PD2325W โปรเจคเตอร์รุ่นประหยัดพลังงานที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยตัวเครื่องใช้พลาสติก PCR 50% และบรรจุภัณฑ์ทำจากกระดาษรีไซเคิล 85% จึงช่วยลดปริมาณขยะ นอกจากนี้หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 30,000 ชั่วโมง จึงประหยัดพลังงานได้ประมาณ 50% เมื่อเทียบกับโปรเจคเตอร์ที่ใช้หลอดไฟแบบเก่าที่มีสารปรอท ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมา โปรเจคเตอร์รุ่นนี้นอกจากจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมอีกด้วย
ด้วยอัตราส่วนคอนทราสต์ที่สูงถึง 2,000,000:1 พร้อมความสว่าง 2,200 ลูเมน และความละเอียด WXGA (1280 x 800) Acer Vero PD2325W จึงให้ภาพที่ชัดเจนและแม่นยำ ด้วยขอบเขตสีกว้างในระดับ 125% REC 709 ซึ่งกว้างกว่า 1.5 ถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับโปรเจคเตอร์ที่ใช้หลอดไฟแบบเก่า ฟีเจอร์ Auto Keystone Correction ของโปรเจคเตอร์จะแก้ไขความผิดเพี้ยนของภาพในแนวตั้งโดยอัตโนมัติ และสามารถติดตั้งโปรเจคเตอร์ไว้บนเพดาน นอกจากนี้ BlueLightShield ยังช่วยรองรับการปรับตัวกรองแสงสีฟ้าเพื่อลดการปล่อยแสงสีฟ้าที่อาจเป็นอันตราย
Acer Vero PD2325W มาพร้อมกับลำโพง 5 วัตต์ สำหรับการแสดงวิดีโอ เพลง และภาพยนตร์ โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อลำโพงภายนอก ทั้งยังรองรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับการจัดแสดงในที่สาธารณะหรือนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์
เมาส์และคีย์บอร์ด Vero
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Vero ยังมีอุปกรณ์เมาส์และคีย์บอร์ดที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อลดปริมาณขยะ การปล่อยก๊าซคาร์บอน และเสียงรบกวน ฝาครอบด้านบนของอุปกรณ์ทั้งสองทำจากพลาสติก PCR 65% ส่วนพื้นด้านล่างทำจากพลาสติก OBP 30% อายุการใช้งานที่ยาวนานเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดปริมาณขยะ ด้วยเหตุนี้ ทั้งเมาส์และคีย์บอร์ดจึงมีความทนทาน โดยเมาส์มีอายุแบตเตอรี่ 18 เดือน และคีย์บอร์ด Vero มีอายุการใช้งานยาวนาน รองรับการคลิกได้ถึง 5 ล้านครั้ง
ปุ่มเมาส์และคีย์บอร์ดแทบจะไร้เสียงรบกวน จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในบริเวณพื้นที่ที่ใช้ร่วมกันหรือในที่สาธารณะ เช่น ร้านกาแฟ หรือห้องสมุด หรือขณะที่กำลังฟังเพลงและพอดคาสต์ที่บ้าน มีให้เลือกทั้งรุ่นสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและสำหรับองค์กรธุรกิจ โดยรุ่นสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปเป็นสีเทาอ่อนผสมกับเทาเข้ม ตัดเส้นด้วยสีเหลืองสดใส ส่วนรุ่นเทาเข้มสีเดียวดูเคร่งขรึมกว่า เหมาะสำหรับคนทำงาน
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook
