นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ลงพื้นที่กวาดล้างและจับกุมการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทั่วประเทศ หลังพบยังมีผู้ลักลอบขายอยู่หลายพื้นที่ เพราะมีข้อมูลระบุถึงการสูบบุหรี่ไฟฟ้าว่า เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะควันที่พ่นออกมา ทำให้คนรอบข้างมีโอกาสติดเชื้อได้ ขณะเดียวกันยังพบอีกว่า หลายพื้นที่ยังมีการลักลอบขาย ทั้งๆ ที่รัฐบาลสั่งให้ปิดสถานที่ที่คนพลุกพล่าน จึงขอให้ สคบ.ร่วมมือกับตำรวจออกกวาดล้างโดยเร็ว
“บุหรี่ไฟฟ้าเป็นส่วนที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิดได้ง่าย เพราะควันที่พ่นออกมาจะมีละอองน้ำลายออกมาด้วย เทียบได้กับการถ่มน้ำลายใส่หน้ากัน เพราะไอของบุหรี่ไฟฟ้า ประกอบด้วยละอองจากระบบทางเดินหายใจ น้ำลาย เสมหะ และแบคทีเรีย เมื่อถูกพ่นออกมาจะลอยเป็นระยะทางไกล และแขวนอยู่ในอากาศในระดับความสูงเท่าศีรษะ สามารถแพร่เชื้อไปยังผู้คนจำนวนมากได้ ขณะที่ผู้สูบเองจะมีภูมิคุ้มกันลดลง จึงสั่งให้ลงพื้นที่จับให้มากที่สุดนอกจากนี้ ยังเตรียมทำเรื่องไปยังสำนักงานเขต ที่มีการลักลอบขาย เช่น คลองถม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ให้ช่วยปราบปรามเด็ดขาด ซึ่งแม้ที่ผ่านมาจับได้แล้ว 4 ครั้ง แต่ก็ยังพบลักลอบขายอยู่”
ทั้งนี้ ล่าสุดศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ตลาดคลองถม พบว่า มีร้านค้าขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง 10 ร้าน จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมด ประกอบด้วย บุหรี่ไฟฟ้า 48 ตัว น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า 1,703 ขวด คอยล์และอะตอม 1,338 ชิ้น อุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง 493 ชิ้น รวมมูลค่าของกลางกว่า 1 ล้านบาท โดยผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522
