ปตท.ร่วมลงนามพันธมิตรกับแอดนอคและบริษัทต่างชาติน้ำมัน 8 ราย กำหนดราคาขายน้ำมันดิบตลาดล่วงหน้า เชื่อไทยได้ประโยชน์มากขึ้น
นายดิษทัต ปันยารชุน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. เปิดเผยภายหลังร่วมลงนามสัญญาเป็นพันธมิตรร่วมกับADNOC หรือแอดนอค บริษัทน้ำมันแห่งชาติของอาบูดาบีและบริษัทต่างชาติอีก8แห่ง เปิดตัว ICE Futures Abu Dhabi (IFAD) ตลาดน้ำมันล่วงหน้าในเอเชีย แห่งใหม่ ว่าการร่วมเป็นพันธมิตรครั้งนี้จะทำให้ปตท.มีความโปร่งใสในการบริหารราคาซื้อขายน้ำมันดิบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นประโยชน์กับผู้ใช้น้ำมันในระยะยาว
สำหรับพันธมิตรอีก 8 รายที่ร่วมลงนามครั้งนี้คือ BP Total Inpex Vitol Shell Petrochaina Korea’s GS Caltex Japan’s JXTG
นอกจากนี้ยังเตรียมแผนจะเปิดสำนักตัวแทนการค้าธุรกิจเทรดดิ้งของปตท. เพิ่มขึ้น ทั้ง รัฐอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์? และ ประเทศสหรัฐ?อเมริกา นอกเหนือจากที่ปัจจุบันมีสำนักงานตัวแทนใน ลอนดอน(อังกฤษ), สิงคโปร์, เซี่ยงไฮ้?(จีน)?, อินโดนีเซีย และ ดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)?ธุรกิจโฆษณา
นายดิษทัต กล่าวว่า การตั้งสำนักงานตัวแทนในอาบูดาบีเป็นการรองรับธุรกิจใหม่ที่ ปตท.ร่วมกับ ADNOC บริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบีและ ICE หนึ่งในตลาดน้ำมัน Futures ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดตัว ICE Futures Abu Dhabi (IFAD) ตลาดฟิวเจอร์ใหม่ในเอเชีย โดยจะเริ่มเปิดตลาดการซื้อขายภายในช่วงต้นปี 2563
ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าว ได้ประกาศตัว ใน ADIPEC 2019 หนึ่งในงาน Conference น้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์วานนี้ (11พ.ย)
สำหรับตลาด IFAD นี้มีจุดประสงค์ที่จะเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายน้ำมันดิบในภูมิภาค เอเชีย และทาง ICE และ ADNOC มีความตั้งใจที่จะพยายามสร้างให้น้ำมันดิบเกรด Murban ของ UAE นี้ให้กลายมาเป็นเกรดพื้นฐานหรือเป็น Benchmark ใหม่ของตลาดเอเชียต่อไป จากที่ผ่านมา ตลาดสำคัญ คือ WTI แห่งสหรัฐอเมริกา และ Brent ประเทศอังกฤษ?
อย่างไรก็ตามน้ำมันดิบเกรด Murban ของ UAE เป็นน้ำมันกำมะถันต่ำ โดยมียอดส่งออก 1.1ล้านบาร์เรลต่อวัน และ ปตท.จัดซื้อมาในสัดส่วนร้อยละ 20 หรือประมาณ 2 แสนบาร์เรลต่อวัน
“การร่วมเป็นพาร์ทเนอร์นี้เชื่อว่าจะทำให้ปตท.มีความโปร่งใสในเรื่องราคาน้ำมันลดความเสี่ยงในการบริหารราคา เพราะปัจจุบันปตท.นำเข้าจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี 20% แต่ในทางปฎิบัติก็ยังใช้ราคาอ้างอิงน้ำมันจากตลาดสิงคโปร์ร่วมในการกำหนดราคาซื้อขายเหมือนเดิม เพื่อให้มีความหลากหลายและรู้ทิศทางราคาน้ำมัน”นายดิษทัต กล่าว
นายดิษทัต กล่าวว่า ในส่วนของสหรัฐในขณะนี้กลายเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ทาง ปตท.เห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปทำตลาด โดยจะเสนอ คณะกรรมการ ปตท.เพื่อจัดตั้งสำนักงานตัวแทนภายในไตรมาส 1/2563 ตั้งเป้าหมายจะค้าขายจากตลาดสหรัฐเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5-10 จากปัจจุบันพอร์ตเทรดดิ้งของ ปตท.มาจากตลาดสหรัฐร้อยละ 10 ที่เหลือมาจากตะวันออกกลางร้อยละ70 และตะวันออกไกลร้อยละ 20 และตั้งเป้า จะเพิ่มยอดขายจากตลาดสหรัฐ ในปี 2563-2564 เพิ่มจากปัจจุบัน 7 หมื่นบาร์เรล/วันเป็น 1 แสนบาร์เรล/วัน คาดยอดขายจะเพิ่มจาก 3 หมื่นล้านบาท/ปี เป็นกว่า 8 หมื่นล้านบาท/ปี
