หน้าแรก เศรษฐกิจ เปิดประเทศไม่ได้ตายแน่ๆ โชว์ตัวเลขคนตกงาน 5 ล้าน

เปิดประเทศไม่ได้ตายแน่ๆ โชว์ตัวเลขคนตกงาน 5 ล้าน

600
แชร์ข่าวนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ออกบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ KKP Research ว่า KKP ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีสำหรับปี 64 จาก 5.2% เหลือ 3.4% ปัจจัยสำคัญที่สุด คือ การท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ช้ากว่าเดิม จากการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเกิดขึ้นจริงได้ยาก ขณะที่ยังคงประมาณการเศรษฐกิจปี 63 ติดลบ 9% สะท้อนถึงการที่เศรษฐกิจปีหน้ายังคงห่างไกลจากการกลับเข้าสู่ระดับของกิจกรรมเศรษฐกิจก่อนโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจไทยอาจต้องใช้เวลานานถึง 3-4 ปีกว่าที่จะกลับสู่ระดับปกติ

ทั้งนี้ ได้เปลี่ยนการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวปี 64 จาก 17 ล้านคน เหลือเพียง 6.4 ล้านคน คาดว่านักท่องเที่ยวจะเริ่มกลับเข้ามาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้นในไตรมาส 3-4 ปี 64 แต่ยังต่ำกว่าระดับปกติก่อนโควิดคือที่ 40 ล้านคนอยู่มาก โดยกรณีเลวร้ายที่ประเทศไทยอาจไม่สามารถเปิดประเทศ เป็นความเสี่ยงที่ทำให้เศรษฐกิจจะหดตัวลึกไปกว่าเดิม และอาจโตได้ในระดับ 0%-1% เท่านั้น

KKP Research ระบุว่า แม้เศรษฐกิจน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่เศรษฐกิจไทยยังมีความท้าทายหรือมีความเสี่ยงที่ต้องจับตา 3 ปัจจัยคือ 1.ฐานะการเงินของธุรกิจได้รับผลกระทบรุนแรง โดยธุรกิจขนาดกลางและเล็กมีความเสี่ยงในการเลิกกิจการ หากการปิดประเทศยังคงลากยาว ทำให้ฐานะทางการเงินของธุรกิจอาจเลวร้ายลง โดยเฉพาะกลุ่มที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก เมื่อดูตัวเลขกำไรจากการดำเนินงานในรูปเงินสด (EBITDA) ของบริษัทในกลุ่มโรงแรมที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ (SET) พบว่ากระแสเงินสดเปลี่ยนจากบวก เป็นติดลบในไตรมาส 2 ปีนี้ กระทบต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจและการชำระหนี้ นอกจากนี้ยังพบว่าธุรกิจหลายกลุ่มเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น

2.ผลกระทบต่อการว่างงานอาจรุนแรงขึ้นอีก โดยความเสี่ยงด้านกระแสเงินสด อาจส่งผลต่อเนื่องมายังการจ้างงาน แม้เศรษฐกิจจะดีขึ้นบ้างจากการผ่อนคลายการปิดเมือง แต่ผลที่จะเกิดขึ้นกับการจ้างงานยังไม่ถึงจุดต่ำสุด จากความเสี่ยงในการเลิกกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่จะยิ่งสูงขึ้น หากสถานการณ์ลากยาว “ตัวเลขชั่วโมงการทำงานเดือน มิ.ย.ปรับตัวลง 12% เมื่อเทียบกับปีก่อนและหดตัวลงในทุกกลุ่มอาชีพ สะท้อนว่าลำพังเฉพาะตัวเลขสำรวจการจ้างงานในไตรมาส 2 ที่ระบุว่ามีการว่างงาน 700,000 คน หรือ 1.9% อาจไม่ใช่”

ปัจจัยที่สะท้อนสถานการณ์ในตลาดแรงงานได้ทั้งหมด หากนับรวมกลุ่มคนที่ถูกพักงานไม่ได้รับเงินเดือน หรือคนที่ถูกลดจำนวนชั่วโมงทำงานลง จะทำให้ตัวเลขนี้รวมกับคนว่างงานในปัจจุบันสูงถึงกว่า 3 ล้านคน แต่การว่างงานอาจสูงถึง 5 ล้านคน หรือมากกว่านั้นได้ หากนักท่องเที่ยวไม่สามารถกลับมาได้ปีหน้า”

3.มาตรการพักชำระหนี้กำลังจะหมดลง ทำให้ยังต้องจับตาดูว่าหลังจากนี้จะมีลูกหนี้มากน้อยเพียงใด ที่จะไม่สามารถกลับมาจ่ายหนี้ได้ และหนี้จำนวนมากแค่ไหนที่จะกลายเป็นหนี้เสีย (NPL)

ทั้งนี้ จากมุมมองเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าที่ยังอ่อนแอและมีความไม่แน่นอนสูง KKP Research เห็นว่า ภาครัฐยังจำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยประคับประคองเศรษฐกิจ ให้เดินหน้าและรองรับแรงงานที่ตกงานจำนวนมหาศาล แม้รัฐบาลจะออกชุดมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจมาแล้วในจำนวน 1 ล้านล้านบาท (6% ของจีดีพี) แต่การใช้จริงยังทำได้น้อยมาก ในจำนวน 600,000 ล้านบาท ที่เป็นมาตรการเยียวยามีการใช้เงินไปเพียง 390,000 ล้านบาท และที่เหลืออีก 400,000 ล้านบาท ที่จะใช้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ก็มีเพียง 42,000 ล้านบาท ที่ใช้ไปเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวในประเทศ

KKP Research ประเมินว่ารัฐยังมีความสามารถในการทำนโยบายการคลังเพิ่มเติมหลังจากนี้ แม้จะมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับหนี้สาธารณะที่มีแนวโน้มแตะระดับ 60% ของจีดีพี ซึ่งเป็นเพดานตามกฎหมาย แต่จากต้นทุนในการกู้ยืมเงินของรัฐที่ต่ำลงมากเมื่อเทียบกับอดีต ทำให้ประเมินว่าเรื่องความสามารถในการจ่ายหนี้และความมั่นคงทางการคลัง จะไม่เป็นปัญหามากนัก

cr. ไทยรัฐ


แชร์ข่าวนี้