นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรืออีซีเอฟ ผู้ผลิตและจำหน่าย เฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าภายในปีนี้ จะสามารถรักษาการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 10-12% และรักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในช่วงใกล้เคียงกันกับปีก่อนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 และยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรในธุรกิจต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในไตรมาส 3 ปี 2563 มีแนวโน้มเติบโตที่ดี เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น อีกทั้งบริษัทมีการปรับกลยุทธ์ควบคุมค่าใช้จ่าย และบริหารจัดการต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง
ส่วนแผนขยายตลาดในประเทศ บริษัทมุ่งเน้นกระตุ้นยอดขายผ่านช่องทางจำหน่ายใหม่ ทั้งช่องทางออนไลน์ ร้านโมเดิร์นเทรดชั้นนำที่มีสาขาทั่วประเทศพร้อมกับแผนขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในประเทศผ่านลูกค้าของบริษัท รวมถึงสร้างความหลากหลายของช่องทางการจำหน่ายสินค้า
ขณะที่ตลาดต่างประเทศ กลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นยังคงมียอดสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทได้ปรับกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้า มีงผลให้ยอดขาย เติบโตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใหม่จากประเทศอินเดีย จีน อเมริกา มีคำสั่งซื้อทยอยเข้ามามากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในขณะเดียวกันบริษัทก็มีความพร้อมในการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากยอดขายต่างประเทศที่ 63% ส่วนในประเทศอยู่ที่ 37%
ขณะเดียวกันในส่วนของธุรกิจพลังงานทดแทนซึ่งบริษัทได้มีการลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าที่ เมียนมา ขนาดกำลังผลิต 220 เมกะวัตต์ เริ่มจ่ายไฟเข้าระบบแล้ว 50 เมกะวัตต์ มีส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุน 2-3 ล้านบาทต่อเดือน แต่เนื่องจากบริษัทได้มีการกู้เงินมาลงทุน ส่งผลให้มีต้นทุนการเงินที่สูง และหากโครงการจ่ายไฟเข้าระบบจนครบ 220 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ส่วนแบ่งกำไรมากกว่าต้นทุนการเงินที่มี
โดยล่าสุดอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทอยู่ที่ 1.54 เท่า ลดลงจากเดิมอยู่ที่ 2.1 เท่า เป็นผลจากเมื่อเดือนส.ค. ที่ผ่านมา บริษัทได้นำเงินไปชำระหนี้หุ้นกู้ จำนวน 600 ล้านบาท
cr. ข่าวสด
