หน้าแรก เศรษฐกิจ เปิด 4 วิธีแก้หนี้บัตรเครดิต เอาตัวรอดอย่างไรดี

เปิด 4 วิธีแก้หนี้บัตรเครดิต เอาตัวรอดอย่างไรดี

2827
แชร์ข่าวนี้

เว็บไซต์ thebangkokinsight รายงานว่า บัตรเครดิตเป็นสิ่งที่หลายคนนำมาใช้เป็นทางเลือกในการใช้จ่าย โดยมีโปรโมชั่นเป็นแรงจูงใจให้คนใช้บัตรให้คุ้มค่ามากขึ้น แต่อย่าลืมว่าการใช้บัตรเครดิตเป็นการหยิบเงินจากอนาคตของเรามาใช้ก่อน ด้วยเหตุนี้เองทำให้หลายๆ คนใช้บัตรเครดิตโดยไม่ระมัดระวังจนเกิดการติดหนี้บัตรเครดิตขึ้น

แก้หนี้บัตรเครดิตเริ่มต้นอย่างไร

หากติดหนี้บัตรเครดิตขึ้นมา ต้องมองหาทางแก้หนี้บัตรเครดิตเพื่อไม่ให้หนี้บานปลาย และดอกเบี้ยสูงทบต้นไปมากกว่านี้ โดยมี 4 วิธีที่จะช่วยแก้หนี้บัตรเครดิตมาฝากกัน

วิธีที่ 1 รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

ปกติเราจะได้ยินแต่คำว่า รีไฟแนนซ์บ้าน ใช่หรือไม่ แต่ในความเป็นจริงแล้วมีการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตด้วยเช่นกัน คือ การที่เรารวมหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดจากหลายๆ แหล่งเพื่อนำไปให้สถาบันการเงินแห่งใหม่ หรือธนาคารใหม่ เพื่อขอทำการผ่อนชำระ โดยขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเริ่มทำได้ดังนี้

  • รวมยอดหนี้บัตรเครดิตทุกใบที่มีอย่างละเอียด
  • ดูความสามารถในการชำระหนี้ของเรา
  • ติดต่อธนาคารเดิมเพื่อต่อรองและแจ้งปิดหนี้เก่า
  • มองหาธนาคารใหม่เพื่อติดต่อขอรีไฟแนนซ์ โดยพิจารณาหลายๆ ธนาคาร โดยหาธนาคารที่ดอกเบี้ยคุ้มค่าที่สุด

วิธีรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเหมาะกับคนที่ติดหนี้บัตรเครดิตอย่างเดียว และมีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ

วิธีที่ 2 รวมหนี้

การนำหนี้ดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้บัตรเครดิต, หนี้บ้าน หรือสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นๆ ที่เป็นหนี้อยู่หลายธนาคารมารวมไว้ที่เดียว เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการและการผ่อนชำระหนี้ วิธีนี้จะทำให้เราสามารถเลือกผ่อนจ่ายเป็นงวดได้ตามกำลังที่เราไหว แถมยังช่วยลดภาระเรื่องดอกเบี้ยลงได้ ส่งผลให้เราปิดหนี้ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น สำหรับคนที่อยากจะรวมหนี้บัตรเครดิตก็สามารถทำได้ 2 รูปแบบด้วยกัน คือ

  • การรวมหนี้บัตรเครดิตหลายใบ รวมหนี้บัตรเครดิตที่เรามีอยู่กับหลายธนาคารมาเป็นสินเชื่อบุคคลกับธนาคารเดียวเพื่อให้ดอกเบี้ยลดลง และบริหารจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้นด้วยการผ่อนจ่ายหนี้เพียงก้อนเดียว ระยะเวลาสินเชื่อยืดหยุ่นได้สูงสุดถึง 5 ปี โดยมีหลายธนาคารให้บริการอยู่ ส่วนใหญ่จะให้วงเงินได้สูงสุด 5 เท่าของรายได้กรณีไม่มีหลักประกัน
  • การรวมหนี้บัตรเครดิตเข้าไว้กับหนี้สินเชื่อบ้าน รวมหนี้บัตรเครดิตไว้กับสินเชื่อบ้านที่เราอยู่ให้กลายเป็นหนี้ก้อนเดียวกับธนาคารเดียวกัน เพื่อช่วยลดภาระเรื่องดอกเบี้ยและการผ่อนค่างวด โดยจะได้วงเงินไม่เกินมูลค่าของหลักประกัน

วิธีที่ 3 เปลี่ยนหนี้บัตรเครดิตให้กลายเป็นสินเชื่อระยะยาว

หากติดหนี้บัตรเครดิตอยู่ อาจเลือกวิธีนี้ในการแก้หนี้บัตรเครดิต โดยเปลี่ยนเป็นหนี้สินเชื่อระยะยาวที่จะสามารถช่วยลดค่างวด พร้อมทั้งทำให้เราสามารถขยายระยะเวลาชำระหนี้ เมื่อเปลี่ยนเป็นสินเชื่อระยะยาวแล้วจะทำให้เราได้รับดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตเดิมของเราได้

ขั้นตอนการเปลี่ยนหนี้บัตรเครดิตให้เป็นสินเชื่อระยะยาว

1. สำรวจค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน : เริ่มสำรวจค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน พร้อมคำนวณจากรายได้ของเราเพื่อที่จะได้เห็นชัดถึงความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ได้ เช่น มีรายได้เดือนละ 40,000 บาท มีหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดราว 300,000 บาท เรามาเริ่มวางแผนการเงินค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อเดือนก่อนเพื่อที่จะได้รู้ถึงความสามารถในการผ่อนชำระหนี้สินของเราได้

chart

จะเห็นได้ว่าหากเราสามารถหักค่าใช้จ่ายของเราทั้งหมดออกแล้ว เราจะเหลือเงินราว ๆ 9,000 บาท ที่สามารถใช้ชำระหนี้ระยะยาวของเราได้ แต่เราขอแนะนำว่าไม่ควรให้ยอดหนี้ของเราอยู่ในระดับที่ 9,000 พอดี เพื่อช่วยให้การเงินของเราคล่องตัวขึ้น ท่านอาจจะผ่อนเพียงแค่ 6,000-7,000 บาทเท่านั้น (นี่เป็นเพียงกรณีตัวอย่าง ทุก ๆ ท่านควรศึกษาข้อมูลและวางแผนการเงินของเราให้ดีก่อนตัดสินใจทำสินเชื่อระยะยาว)

2. ติดต่อธนาคารเดิมที่เรามีหนี้ : เข้าติดต่อธนาคารเดิมที่เรามีหนี้บัตรเครดิต และขอเปลี่ยนหนี้บัตรเครดิตเดิมให้กลายเป็นหนี้ระยะยาว

3. รอธนาคารพิจารณา : โดยธนาคารจะพิจารณาจากวงเงินของบัตรเครดิตของเรา เพื่อใช้คิดดอกเบี้ยในอัตราไม่เกิน 12% ต่อปี และ 22% ต่อปี รวมถึงธนาคารจะพิจารณาระยะเวลาสินเชื่อระยะยาวไปให้เราอีกด้วย

ซึ่งวิธีการนี้ก็เหมาะกับคนที่ไม่สามารถจ่ายยอดบัตรเครดิตขั้นต่ำไหว ต้องการยืดระยะในการเป็นหนี้บัตรเครดิตนั่นเอง

วิธีที่ 4 ปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย วางแผนการเงินก่อนรูดบัตร

การวางแผนการเงินก่อนตัดสินใจรูดบัตรเครดิตเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะไม่ทำให้เราเป็นหนี้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้น หากเราต้องการซื้อสิ่งของที่จำเป็นเพิ่มโดยใช้บัตรเครดิต ควรคำนวณค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนและดูยอดเงินคงเหลือที่สามารถจ่ายบัตรเครดิตไหว เพื่อให้มีเงินที่ไปชำระหนี้บัตรเครดิตคงค้างและพยายามจ่ายให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และที่สำคัญเราควรเช็กสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากบัตรเครดิตก่อนตัดสินใจรูดบัตรของเราก่อนด้วย เพื่อที่เราจะได้วางแผนการใช้จ่ายได้ดีขึ้น เช่น สิทธิผ่อนชำระสินค้าดอกเบี้ย 0% (ขึ้นอยู่กับประเภทบัตรเครดิตของเรา)

ท้ายที่สุดของบทความนี้ การเลือกใช้บัตรเครดิตถือเป็นหนึ่งในทางเลือกใช้จ่ายที่ดี เพียงแค่เราต้องรู้จักคิด รู้จักใช้ ให้เกิดประโยชน์กับเราที่สุด แต่หากเกิดความผิดพลาดในการควบคุมค่าใช้จ่ายทำให้ติดหนี้บัตรเครดิตขึ้นมา สิ่งที่เราควรทำให้ไวคือการหาทางออกของการแก้หนี้บัตรเครดิตนี้ เพื่อรักษาประวัติทางการเงินที่ดีของตัวเรา

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :thebangkokinsight

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้