นอกจากการเปิดตัว Acer Aspire Series ที่แนะนำไปก่อนหน้านี้ แต่สำหรับรอบนี้เอาใจสายน้ำหนักเบาอย่าง Acer Swift ที่มีที่มาพร้อมกับ ความสามารถด้าน AI โดยทั้งคู่ยังมีปุ่ม Copilot และยังติดตั้ง NPU ทำให้ฟีเจอร์ AI ของเครื่อง เช่นระบบ ลดเสียงรบกวนของพัดลมระหว่างโทร หรือ PurifiedView และ PurifitedVoice 2.0 ที่มีระบบกรองเสียงด้วย AI แบบจัดเต็ม
Acer Swift Go ที่มีให้เลือก 2 ขนาดมาพร้อมกับ Intel Core Ultra ใหม่ล่าสุด และขุมพลัง AMD ก็มีมีให้เลือก และแบ่งเป็นสเปกดังนี้
Acer Swift Go 16
- มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 16 นิ้ว OLED ความละเอียดสูงสุด 3200 x 2000 พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz โดยหน้าจอรองรับ DisplayHDR True Black 500, DCI-P3
- RAM ในรุ่นสูงสุด 32GB แบบ LPDDR5X
- พื้นที่ความจำ 2TB แบบ PCIe Gen 4
- ขุมพลังตัวท็อปสุด Intel Core Ultra 9 185H
- แบตเตอรี่ 50Wh
- ระบบชาร์จไฟ 65W
- รองรับ Wi-Fi 6E, Wi-Fi7
- ใช้งานได้นานสุด 5 ชั่วโมง
- Webcam ความละเอียด 1440P ในรุ่นท็อป
- ราคาเริ่มต้น 799 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 28,000 บาท เริ่มจำหน่าย มีนาคม นี้
Acer Swift Go 14
- หน้าจอจะมีขนาด 14 นิ้ว OLED โดยความละเอียดสูงสุดที่ 2880 x 1800 Refresh Rate 90Hz ค่าสีเหมือนกัน
- RAM ในรุ่นสูงสุด 32GB แบบ LPDDR5X
- พื้นที่ความจำ 2TB แบบ PCIe Gen 4
- ขุมพลังตัวท็อปสุด Intel Core Ultra มีตั้งแต่ Core Ultra 9 185H, the Ultra 7 155H and 155U, and the Ultra 5 125H และ 125U
- แบตเตอรี่ 50Wh
- ระบบชาร์จไฟ 65W
- รองรับ Wi-Fi 6E, Wi-Fi7
- ใช้งานได้นานสุด 5 ชั่วโมง
- Webcam ความละเอียด 1440p
- Touchpad ของรุ่น 14 นิ้วจะไว้สำหรับปรับค่าต่างๆ เช่นลดเสียงเพิ่มเสียง, เลื่อน Track, หยุดเพลงและเล่นเพลงต่อได้
- น้ำหนักราวๆ 2 กิโลกรัม
- ราคา 749 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 26,xxx บาท วางจำหน่าย มีนาคม นี้
Acer Swift X รุ่นนี้เน้นของแรงกับขุมพลัง Intel Core UItra H-Series และการ์ดจอ Nvidia RTX 40-Series ใหม่ โดยรอบนี้ Swift X มีให้เลือกแค่ 14 นิ้วเท่านั้น
รายละเอียเสปกของ Acer Swift X 14
- ได้หน้าจอขนาด 5 นิ้ว OLED ความละเอียด 2560×1600 พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz ค่าสี 100% DCI-P4 พร้อมกับความสว่าง 500 nits
- ขุมพลังเป็น Intel Core Ultra 7 155H และ the Core Ultra 5 125H processor
- RAM ในรุ่นสูงสุด 32GB แบบ LPDDR5X
- พื้นที่ความจำ 2TB แบบ PCIe Gen 4
- รองรับ Wi-Fi 6E, Wi-Fi7
- มีช่องเสียบครบทั้ง
- USB-C รองรับ Thunderbolt 4
- HDMI 2.1
- microSD Reader
- USB-A
- การ์ดจอมีให้เลือกตั้งแต่ GeForce RTX 4050, RTX4060 และ RTX 4070
- แบตเตอรี่ 76Wh
- น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม
- ราคาอยูที่ 1,399.99 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 49,000 บาท วางหน่ายกุมภาพันธ์
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :PCWorld
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook
