น.ส.วิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมเตรียมปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังด้วยวิธีการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม เพื่อให้ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวที่ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรัง สามารถรักษาที่สถานพยาบาลเอกชนได้สะดวกมากขึ้น เพราะสถานพยาบาลของรัฐมีไม่เพียงพอ โดยปัจจุบันมีสถานพยาบาลเอกชนเข้าร่วมโครงการแล้ว 223 แห่งทั่วประเทศ สำหรับหลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ คือ 1.ให้เบิกค่ายากระตุ้นเม็ดเลือดแดง (Erythropoietin) ที่สถานพยาบาลเอกชนได้ จากเดิมผู้ป่วยต้องนำยาจากสถานพยาบาลของรัฐไปใช้ในการรักษาที่สถานพยาบาลเอกชน ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระการจัดเก็บยาให้กับสถานพยาบาลเอกชน 2.เบิกค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการที่สถานพยาบาลเอกชนได้ จากเดิมที่ไม่สามารถเบิกได้ เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพ
“หลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่จะเริ่มใช้ได้วันที่ 1 มิ.ย.63 เป็นต้นไป ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว ตรวจสอบการให้บริการกับสถานพยาบาลเอกชนได้จากแอปพลิเคชัน “CGD iHealthCare” โดยเลือกเมนูสถานพยาบาลที่เข้าร่วม เลือกกลุ่มเฉพาะโรค (ฟอกไต) จากนั้นใส่จังหวัดเพื่อค้นหาชื่อสถานพยาบาลที่ต้องการ”
นางสาววิลาวรรณ กล่าวต่อถึงผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 (ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62-31 ม.ค.63) ซึ่งเป็นการใช้จ่ายงบประมาณปี 62 ไปพลางก่อน หรืองบประมาณที่ยังเหลืออยู่ว่า ใช้จ่ายแล้ว 959,941 ล้านบาท หรือ 32% ของวงเงินงบประมาณรวม 3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายลงทุนใช้จ่ายแล้ว 60,001 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 593,871 ล้านบาท, รายจ่ายประจำ ใช้จ่ายแล้ว 899,940 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 2,406,129 ล้านบาท ส่วนงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปีใช้จ่ายแล้ว 257,039 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 263,268 ล้านบาท
