กสทช. กำชับไอเอสพี-ค่ายมือถือ ดูแลคุณภาพเน็ต บำรุงรักษาโครงข่ายให้ใช้งานได้ตลอดเวลา สนองนโยบายรัฐ ทำงานที่บ้าน ด้านแบงก์ชาติ ประชุมทางไกลฉุกเฉินกับนายแบงก์ ยกระดับแผนรับมือกรณีฉุกเฉินให้เน้นทำธุรกรรมผ่านออนไลน์มากขึ้น สำรองเงินสดให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ของประชาชนในทุกกรณี
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า จากนโยบายให้หน่วยงานราชการ ทำงานที่บ้าน (Work From Home) เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 นั้น กสทช.ได้หารือผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ (ไอเอสพี) และผู้ให้บริการมือถือทุกรายในประเทศ เพื่อสนับสนุนแนวทางการดำเนินงานของรัฐบาลเบื้องต้น ได้กำชับให้ไอเอพี ทุกรายต้องรักษาคุณภาพของการให้บริการไว้ให้เป็นปกติตามที่ประชาชนได้ซื้อแพ็กเกจไว้อีกทั้งต้องบำรุงรักษาระบบโครงข่าย เพื่อไม่ให้กระทบกับการทำงาน Work From Home ตามนโยบายของรัฐบาลต้องหยุดชะงักลง
สำหรับโครงการการจัดระเบียบสายสื่อสารและนำสายสื่อสารลงดินที่สำนักงาน กสทช. ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) นั้น กำลังดำเนินการอยู่ในหลายพื้นที่ จะมีหนังสือแจ้งให้ชะลอการดำเนินการชั่วคราวก่อน เพื่อไม่ให้กระทบกับการใช้งานของประชาชนในขณะทำงาน Work From Home
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 มี.ค.นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมประชุมทางไกล กับผู้บริหารของสมาคมธนาคารไทย ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ทุกแห่ง โดยได้มีการหารือถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 รวมทั้ง ที่ประชุมได้เห็นชอบในการยกระดับแผนฉุกเฉินในการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว โดยใช้มาตรการดูแลพนักงาน และประชาชนเพิ่มเติมมาความจำเป็นโดยในการทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าของธนาคาร ทั้งธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ หากสามารถที่จะทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ได้ ขอให้ ธปท.สนับสนุนให้ลูกค้าใช้ระบบออนไลน์แทนการเดินทางมาทำธุรกรรมที่สาขาของธนาคาร โดยได้สั่งให้ธนาคาร โดยให้ดูแลการความคล่องตัวในการทำธุรกรรมออนไลน์ไม่ให้สะดุด
นอกจากนั้น ธปท.ยังให้ธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐมีการสำรองเงินสดไว้ให้เพียงพอ รวมทั้งการเติมเงินในตู้เอทีเอ็ม ทั้งในกรณีปกติที่ประชาชนอาจจะมีการจับจ่ายเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ รวมทั้งกรณีที่อาจจะต้องมีการปิดสาขาของธนาคาร ขณะเดียวกันให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เร่งรัดการดำเนินการช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ตามแนวทางเดิมที่ได้มีการหารือ และ ธปท.ออกประกาศไปก่อนหน้าให้เร็วขึ้น รวมทั้งดูแลเพิ่มเติมในส่วนของลูกหนี้ที่ผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากการปิดสถานประกอบการต่างๆตามมติคณะรัฐมนตรี
ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.ได้เตรียมแผนรองรับไว้สถานการณ์ 3 แผน ได้แก่ แผนหนึ่ง คือการสลับให้มาทำงานที่สำนักงานใหญ่ โดยแบ่งทีมไว้อย่างน้อยสองทีม เนื่องจากหากกรณีมีทีมหนึ่งทีมใดคนในทีมติดเชื้อ ก็ให้อีกทีมสามารถทำงานแทนได้ทันทีแผนที่สอง คือการลดคนทำงานที่สำนักงานใหญ่ เช่น แบ่งกันทำงาน ให้ 7 คนทำงานที่สำงานใหญ่ อีก 3 คนทำงานที่บ้าน เป็นต้น แผนที่สาม คือกรณีสำนักงานใหญ่จะต้องปิดทำการจากโรคระบาดที่รุนแรงขึ้น ธอส.จะเปิดระบบใช้งานสำรองแทน บนระบบออนไลน์ เพื่อให้ธุรกรรมของธนาคารยังสามารถทำงานได้ตามปกติ
