จากกรณี นายแพง อายุ 52 ปี ออกมาเปิดเผยว่า ถูกพระมหาฉลาด นิปโก เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองเหล็ก บังคับเสพเมถุนทางทวารหนัก ในช่วงที่ตนเองบวชอยู่ที่วัดนับครั้งไม่ถ้วน ต้องลาสิกขาออกมาเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ นายสอน อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นโยมอุปัฏฐากของพระมหาฉลาด ออกมาเปิดโปงถึงพฤติการณ์ ของเจ้าอาวาสว่า ถูกบังคับให้อมอวัยวะเพศ บังคับเสพเมถุนทางทวารหนักมานานหลายปี จนกระทั่งต้องออกจากวัด และต้องออกจากวัดเพราะทนรับพฤติการณ์ทางเพศไม่ไหว มาพักอาศัยอยู่กับน้องสาว จากนั้นสุขภาพร่างกาย ถึงกับทรุดโทรมผอม ลุกเดินและกินข้าวกินน้ำแทบไม่ได้ ก่อนที่แพทย์จะตรวจพบว่าเป็นโรควัณโรคปอด อยู่ในช่วงแพร่ระบาด และจะได้ให้คนใกล้ชิดในบ้านมาตรวจหาเชื้อในวันจันทร์นี้ ที่โรงพยาบาลศีขรภูมิ
ซึ่งการรับฟังและตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อวานนี้ มีพระครูสุนันทวรคุณ เจ้าคณะตำบลหนองเหล็ก พร้อมพระเลขาธิการ เจ้าคณะตำบลหนองเหล็ก เดินทางมารับฟัง เรียกร้องของชาวบ้าน ที่ต้องการให้ทางฝ่ายสงฆ์ ดำเนินการจับสึกหรือลาสิกขา กับเจ้าอาวาสวัดหนองเหล็ก ที่มีพฤติกรรมเสพเมถุน ผิดในข้อวินัยสงฆ์ ถึงขั้นปาราชิก หรือจำเป็นต้องลาสิกขาจากสมณเพศ โดยได้รับฟังข้อเท็จจริง ข้อเรียกร้องที่ชาวบ้านต้องการให้มีการสืบสวนสอบสวนจากคณะสงฆ์ ตำบลหนองเหล็ก เพราะต้องการให้มีการเรียกคืนศรัทธา กับญาติโยม ไม่ให้เสื่อมเสีย เสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา นอกจากนั้นยังพบว่า เจ้าอาวสาวัดได้หลบหนีออกจากวัด พร้อมทั้งนำรถยนต์ บรรทุกทรัพย์สินของมีค่า ในวัด พร้อมเงินสด ของวัดหนองเหล็กออกไปด้วย ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด-วันนี้ (21 มิ.ย.63) ที่สถานีตำรวจภูธรศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นายแพง อายุ 52 ปี หนึ่งในผู้ถูกกระทำได้เดินทาง มาที่ สภ.ศีขรภูมิ พร้อมด้วยนายคมสันต์ ยศวิจิตรไพศาล นายก อบต.หนองเหล็ก เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับ ร.ต.อ.กิตติพงษ์ พรหมบุตร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศีขรภูมิ หลังจากถูกญาติ ของพระมหาฉลาด นิปโก เจ้าอาวาสวัดหนองเหล็ก พูดจาข่มขู่ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ภายหลังได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่ตนถูกพระมหาฉลาด เสพเมถุนทางทวารหนักว่า บวชไม่กี่ปี ทำไมถึงเอาเรื่องในวัดออกมาเปิดเผย คนอื่นเขาบวชเป็นสิบปียังไม่พูดอะไรเลย ให้ระวังตัวไว้ให้ดี เดี๋ยวโดน ภายหลังจากถูกญาติพระมหาฉลาดข่มขู่ ตนได้ไปหารือกับนายก อบต.หนองเหล็กเพื่อให้ช่วยพามาแจ้งความที่ สภ.ศีขรภูมิ เพราะหวั่นว่าจะได้รับอันตราย
นายแพง กล่าวว่าที่มาแจ้งความเพราะหวั่นว่า ตนเองจะได้รับอันตราย เพราะญาติของพระ ข่มขู่ว่าให้ตนระวังตัว เกรงว่าจะมีใครมาทำร้ายตน และตนได้บอกญาติพี่น้องไว้แล้ว หากเป็นอะไรไปฝากลูกให้ดูแลลูกด้วย ทำลงไปเพราะต้องการปกป้องพุทธศาสนา อยากให้พระลาสิกขา ลาสึกจากความเป็นพระ เพราะศาสนาเสื่อมเสีย ตนเองแจ้งความไว้ก็ไม่ได้ให้ดำเนินคดีกับพระ แจ้งความเพราะมีคนข่มขู่ตน กลัวจะได้รับอันตราย ส่วนเรื่องที่ตนถูกพระมหาฉลาดกระทำอยากให้เป็นหน้าที่ของคณะสงฆ์ ได้สืบสวนหาความความจริง ต้องให้พระลาสิกขา ขาดจากความเป็นพระ เพื่อปกป้องศาสนา
ด้าน พ.ต.ท.สมพงษ์ แก่นจักร์ รอง ผกก.สอบสวน หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ศีขรภูมิ กล่าวว่า วันนี้ได้รับแจ้งความผู้เสียหายไว้แล้ว หลังจากนั้นก็จะส่งหนังสือแจ้งให้เจ้าอาวาสวัดพระมหาฉลาด ผู้ถูกกล่าวหา ให้มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน หากยอมรับว่าเสพเมถุนจริง ก็จะส่งเรื่องให้เจ้าคณะตำบล เพื่อประกอบการให้พ้นจากเจ้าอาวาสวัด พ้นจากความเป็นพระ ต้องให้สิทธิ์ชี้ทั้งสองฝ่ายฟังทั้งสองข้าง รวบรวมหลักฐาน เพื่อส่งให้เจ้าคณะจังหวัด ตอนนี้ก็สอบทางฝ่ายถูกกระทำ ผู้เสียหายไม่ต้องการแจ้งความเอาเรื่องพระมหาฉลาด แต่แจ้งความในเรื่องถูกข่มขู่เท่านั้น เรื่องของพระให้เจ้าคณะตำบลดำเนินการ เรื่องการลาสึกลาสิกขาให้ทางสงฆ์เป็นผู้ดำเนินการ
ขณะที่นายสอน อายุ 63 ปี หลังจากถูกส่งตัวเข้ารักษาอาการวัณโรค ที่โรงพยาบาลศีขรภูมิ แพทย์ให้นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และห้ามเข้าเยี่ยมเนื่องจากเป็นโรคที่ติดต่อได้หาย พร้อมเตรียมนำญาติ ที่ผู้ใกล้ชิดสัมผัสกับนายสอน มาตรวจหาวัณโรค ต่อไป
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook
