นาย กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงเสถียรภาพรัฐบาลท่ามกลาง ปัญหาความขัดแย้ง สถานการณ์โควิด-19 รวมไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า หากมองเสถียรภาพในแง่เสียงในสภาก็ยังมั่นคงอยู่ ส่วนฝ่ายค้านก็ค่อนข้างอ่อนแอ ทั้งการทำงาน ที่ยังไม่มีความเป็นเอกภาพ รวมถึงประเด็นที่หยิบยกมาอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา ยังไม่มีเหตุผลที่จะคิดว่ารัฐบาลอยู่ไม่ได้
แต่ในประเด็นการแก้ปัญหาของประชาชนและความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลนั้น เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลต้องพิสูจน์ตัวเองในเวลา อีก 2 ปีที่เหลือ หากจะอยู่ต่อให้ครบเทอม ซึ่งต้องเร่งแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะการปฏิรูปประเทศ และเรื่องต่างๆ ในสังคมที่รัฐบาลยังไม่ได้เริ่มทำ
ดังนั้น เสถียรภาพ ความสำคัญจึงขึ้นอยู่กับผลงานของรัฐบาลและที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า หลายเรื่อง รัฐบาลทำแล้วได้ใจประชาชนเช่น มาตรการต่างๆ ที่ช่วยแก้ไขปัญหาในช่วงโควิด-19 ทั้งโครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ถือเป็นโครงการที่ประชาชนให้คะแนนกับรัฐบาล ต้องขึ้นอยู่กับสิ่งที่รัฐบาลลงมือทำเช่นกัน
นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคกล้ายังกล่าวถึงว่าท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลจะถึงขั้นยุบสภา แล้วเลือกตั้งใหม่ ภายใต้กฎกติกาเดิม หรือไม่นั้น มองว่าเป็นทางเลือกของรัฐบาลมาโดยตลอด แต่จริงๆ แล้วเป็นสาเหตุที่พรรคกล้านำเสนอแต่แรกว่า กติกาบ้านเมืองในส่วนของรัฐธรรมนูญ อย่าไปเหวี่ยงแห ขอให้มุ่งแก้ ในสิ่งที่คิดจะแก้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป
โดยเฉพาะอำนาจ สว. หากปลดล็อกจุดนี้ได้ จะสร้างความสบายใจให้กับประชาชนส่วนให ญ่ว่าจะได้รัฐบาลตามเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง นี่จึงเป็นสาเหตุที่พรรคกล้า เน้นเรื่องนี้มาโดยตลอด ซึ่งหากใช้กระบวนการอื่นที่ต้องใช้เวลานานกว่า แล้วเกิดมีการยุบสภาก่อนหน้านั้น ก็จะกลับไปสู่การใช้กฎกติกาเดิม ซึ่งจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมได้
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews
