“เสรีพิศุทธ์” ไม่รับเรื่องร้องเรียนจาก “สิระ” ยื่นสอบก่อสร้างรุกแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อนร่วมกมธ.ปราบโกงสุดทน “ธีรัจชัย” ลั่นประชาชนมองไม่ทำงาน “ประเดิมชัย” อัด “ปารีณา” รักษามารยาทหลังกดไมค์พูดแทรก
เมื่อวันที่ 5 ก.พ.เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฏร ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกมธ. เป็นประธานการประชุม
เกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง จากกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ ต้องการยื่นเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการทำงานกรมเจ้าท่าและกระทรวงคมนาคม เนื่องจากปล่อยปะละเลยให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก่อสร้างบ้านพักรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
เกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง จากกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ ต้องการยื่นเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการทำงานกรมเจ้าท่าและกระทรวงคมนาคม เนื่องจากปล่อยปะละเลยให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก่อสร้างบ้านพักรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยนายสิระได้เดินลุกจากเก้าอี้ไปยังหัวโต๊ะซึ่งเป็นบริเวณที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์นั่งอยู่ โดยไม่ได้นัดล่วงหน้า แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่ยอมรับยื่นหนังสือ โดยอ้างว่าที่ประชุมอยู่ระหว่างการประชุมตามระเบียบวาระจะมายื่นแทรกวาระไม่ได้ ไม่ให้เกียรติก็เลยไม่รับ
และขอให้ยื่นกับฝ่ายเลขานุการแทน ทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่มีจริยธรรม ทำให้นายสิระ ตอบกลับอย่างไม่พอใจว่า ถ้าไม่รับไปยื่นกับฝ่ายเลขานุการก็ได้ แต่ก็แสดงให้เห็นว่าประธานไม่ยอมรับการตรวจสอบเรื่องของตัวเอง จากนั้นนายสิระได้เดินออกจากห้องประชุมไปทันที
จากนั้น น.ส.ปารีณา ไกรครุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ผสมโรงว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ สองมาตรฐาน เพราะทุกครั้งที่มีชาวบ้านหรือบุคคลอื่นมายื่นหนังสือร้องเรียน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็จะรับหนังสือด้วยตนเอง แต่เมื่อเป็นเรื่องที่ตรวจสอบการทำหน้าที่ของตัวเองกลับไม่ยอมรับ
ตนเคยยื่นคำร้องของประชาชนให้ตรวจสอบกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์หมิ่นเบื้องสูง 2 กรณี แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็ไม่รับเรื่อง ฝ่ายเลขานุการของที่ประชุมก็ไม่รับเรื่อง จนต้องยื่นผ่านสำนักงานเลขาธิการผู้แทนราษฎรให้ส่งเรื่องมายังคณะกรรมาธิการแทน เพราะ บ่ายเบี่ยง จนเป็นที่มาของคำว่า “เสือก” จึงขอเรียกร้องว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของใคร ก็ขอให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์รับเรื่องไปตรวจสอบ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ชี้แจงว่า ไม่ได้กลัวการตรวจสอบ แต่ทุกอย่างต้องเดินหน้าไปตามวาระการประชุม ประชาชนที่จะมายื่นเรื่องต่อตนเองย่อมเข้าใจดี เพราะทุกครั้งก็มายื่นก่อนการประชุมหรือหลังการประชุม ส่วนเรื่องของน.ส.ปารีณานั้น ติดปัญหาเรื่องการเซ็นชื่อเสนอเรื่อง
และส่วนตัวยังไม่เคยเห็นคำร้องดังกล่าวเลย เพิ่งมาเห็นหลังจากที่มีการแก้ไขแล้ว และขณะนี้ก็บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระเรียบร้อยแล้ว น.ส.ปารีณา จึงสวนกลับทันทีว่า ประธานอย่ามั่ว และได้ยื่นต่อประธานหลายครั้งแล้ว แต่ไม่รับและให้ไปยื่นกับเลขานุการ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์สวนว่า ไม่ได้มั่ว และไม่ได้กลัวการตรวจสอบ กลับสงสารมากกว่าที่ยื่นมาโดยไม่รู้ เดี๋ยวจะมีปัญหากับการร้องเรียนเรื่องนี้ ทำให้นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะกมธ. กล่าวว่า ขอสนับสนุน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่ไม่รับหนังสือร้องเรียนของนายสิระ และขอให้กมธ.ทุกท่านพยายามอย่าทำให้งานของคณะกมธ.เสียหาย เพราะขณะนี้ประชาชนมองว่าพวกเราไม่ทำงาน
ด้านนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ. กล่าวว่า การทำแบบนี้ไม่เป็นผลดีของการเป็นส.ส. เพราะส.ส.มีหน้าที่ทำความกระจางและนำความยุติธรรมสู่ประชาชนในเรื่องที่เขาร้องเรียน ดังนั้น ขอให้กมธ.ทุกคนมีวุฒิภาวะ
ทั้งนี้ระหว่างที่นายประเดิมชัย พูดยังไม่เสร็จ น.ส.ปารีณา กดไมค์พูดแทรก เพื่อประท้วง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ขอให้ควบคุมการประชุมให้อยู่ในประเด็น อย่าให้ กมธ.พูดนอกเรื่อง ทำให้นายประเดิมชัย กล่าวต่อว่าน.ส.ปารีณา ว่าขอให้มีมารยาท
เวลาตนพูดกรุณาอย่าพูดแทรก และขอให้อยู่ประชุมจนกว่าจะเลิก ไม่ใช่ถึงเที่ยงแล้วก็ลุกออกห้องเลิกประชุม พวกเราทำงานมาเกือบ 1 ปี เรื่องที่รับมาควรได้รับการพิจารณาได้แล้ว จึงขอให้ที่ประชุมดำเนินการตามระเบียบวาระ
จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้เชิญผู้สื่อข่าวออกจากห้อง และดำเนินการตามวาระประชุม ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมถึงกรณีนายสิระ ยื่นเรื่องให้กมธ.ตรวจสอบกรณีการสร้างบ้านรุกลำน้ำเจ้าพระยา ว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพของเดิมผ่านมา 20 ปีแล้ว นายสิระต้องเข้าใจว่า กมธ.ยังมีงานอีกมาก
เรื่องที่ยื่นให้ตรวจสอบไม่ใช่ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ตนกำลังพิจารณาเรื่องการหมิ่นประมาทและให้การเท็จ และจะพิจารณาว่า กมธ.ที่ออกไปตามที่ต่างๆเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ นี่คือปัญหาของคนไม่มีความรู้ ความเข้าใจ นายสิระมีปัญหากับตน เข้ามาในกมธ.เพื่อเสนอญัตติให้ยุติเรื่องการตรวจสอบนายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ไม่ครบ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า บ้านพักหลังดังกล่าวเป็นบ้านพักของตนเองจริง ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างมาเป็นเวลานานแล้ว จนเกิดจากปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่ง ยืนยันว่าไม่ได้ลุกล้ำลำน้ำ ทั้งนี้ ในปี 2552 มีนายตำรวจที่ตนเองสั่งสอบสวนกรณีเกี่ยวพันกับบ่อน ป.ประตูน้ำ
ร้องให้ตรวจสอบท่าเรือบริเวณบ้านพักตนเอง จนมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และมีผลสรุปทั้งฝ่ายตำรวจและอัยการไม่สั่งฟ้อง จึงถือว่าคดีถึงที่สุดแล้ว เว้นแต่จะมีพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งท่าเรือก็ไม่เคยมีการต่อเติมอะไรใหม่ นอกจากที่กรมเจ้าท่าเคยอนุญาตไว้