หน้าแรก เศรษฐกิจ กำหนดกรอบใช้เงินกู้ 4 แสนล้าน สร้างอนาคตไทย “เข้มแข็ง” กระตุ้นท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ

กำหนดกรอบใช้เงินกู้ 4 แสนล้าน สร้างอนาคตไทย “เข้มแข็ง” กระตุ้นท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ

391
แชร์ข่าวนี้

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเรื่อง พ.ร.ก.กู้เงิน ในส่วนของกรอบนโยบายเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในด้านต่างๆ วงเงิน 400,000 ล้านบาท ว่าเป็นวงเงินที่จะนำไปกระตุ้นทางเศรษฐกิจเพื่อทำให้สถานการณ์ที่แย่อยู่ในเวลานี้กลับมาฟื้นตัวได้บ้าง จากนั้นจะต้องใช้งบประมาณประจำปี 64-65 เป็นแรงหนุนส่งเศรษฐกิจให้ดีขึ้นในช่วง 2 ปีหลังจากนี้ ทั้งนี้ แผนฟื้นฟูฉบับนี้เน้นเรื่องการใช้งบประมาณไปในท้องถิ่น คาดว่าแต่ละโครงการจะเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ในเดือน มิ.ย.นี้ และจะเริ่มมีเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจรากหญ้าได้ตั้งแต่เดือน ก.ค.นี้ เป็นต้นไป

ด้านนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาฯ สศช.กล่าวว่า การใช้เงินกู้ 400,000 ล้านบาท จะพยายามสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชน โดยเน้น 2 เรื่องหลัก คือ 1.สร้างความเข้มแข็งอนาคตของประเทศจากพิษโควิด-19 เน้นเรื่องการสร้างความได้เปรียบเกี่ยวกับเกษตรแปรรูปและเรื่องอาหาร 2.สร้างแรงกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ และรักษาทรัพยากรธรรมชาติ โดยจะใช้เงินก้อนนี้ทำให้เกิดเกษตรสมัยใหม่ และเน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ รักษาธรรมชาติ และให้ความสำคัญเกี่ยวกับเศรษฐกิจรากหญ้า โดยแรงงานส่วนหนึ่งที่กลับภูมิลำเนาจำเป็นต้องมีการสร้างงานรองรับ จึงต้องใช้เงินกู้สร้างเศรษฐกิจชุมชน เพื่อให้เกิดการรวมกลุ่มวิสาหกิจเพื่อชุมชน รองรับแรงงานกลับเข้าสู่ภูมิลำเนาต่อไป

“หัวใจสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ จะมุ่งเน้นเรื่องความยั่งยืน ไม่เน้นเชิงปริมาณ และจะไม่เน้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วเหมือนในอดีต แต่จะเน้นความมั่นคงยั่งยืนของประเทศ ทำให้ทุกคนสามารถยืนได้ด้วยความมั่นคง เพราะเรามองภาพชีวิตวิถีใหม่ หรือ new normal ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก เราต้องทำให้เศรษฐกิจไทยยืนอยู่ได้ในอนาคต การใช้เงินกู้จึงต้องคุยกันว่าจะต้องเป็นหัวเชื้อในการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทิศทางของการพัฒนาประเทศ”

คาดว่าเงินกู้จะเริ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในเดือน ก.ค.นี้ หรือไตรมาสที่ 3 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องไปถึงงบรายจ่ายประจำปี 64-65 เป็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป และเงินกู้จะรองรับสถานการณ์ภัยแล้งต่างๆ เกิดขึ้นได้อีกด้วย เพราะจะมีงบลงภาคการเกษตร ช่วยแหล่งน้ำชุมชนต่างๆ “จะเลือกเฉพาะโครงการสำคัญที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้”

cr. ไทยรัฐ


แชร์ข่าวนี้