น.ส.สมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐทั้งการอนุมัติวันหยุดยาววันที่ 4-7 ก.ย. และวันหยุดยาวพิเศษในช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาถึง 2 ครั้ง ถือเป็นวันหยุดยาวครั้งแรกนับตั้งแต่คลายล็อกดาวน์ แต่ความคึกคักของการท่องเที่ยวก็ส่งสัญญาณฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาด ส่วนหนึ่งได้แรงบวกมาจากโครงการ “เที่ยวปันสุข-เราเที่ยวด้วยกัน” และแพ็คเกจให้กำลังใจของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เป็นต้น ทำให้รายได้รวมในภาคการท่องเที่ยวไทยเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 1.23 ล้านล้านบาท
ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเอง พบว่ามีสัญญาณที่ดีขึ้นเช่นกัน โดยผลสำรวจของซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ และเดลิเวอร์ริ่ง เอเชีย พบว่าไทยยังเป็นอันดับ 1 ของเมืองท่องเที่ยวที่คนจีนอยากเดินทางมาเที่ยวมากที่สุดหลังโควิด-19 สูงถึง 71% เมื่อสถานการณ์การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว ภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม ที่พักต่างๆ ก็ต้องปรับตัวพร้อมรับสถานการณ์การท่องเที่ยวแบบ New Normal
สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ถือว่าได้รับอานิสงส์จากการกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน หากภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติและมีการเปิดประเทศแล้ว จะมีชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแบบระยะยาว เพราะไทยมีความสามารถในการรับมือการแพร่ระบาดได้ดี เป็นที่ยอมรับในระดับโลก อีกทั้งยังเป็นจุดหมายของชาวต่างชาติที่ทำงานในลักษณะ Remote Working ได้ด้วยการเช่าโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ หรือคอนโดมิเนียมแบบระยะยาว ดังนั้น ผู้ประกอบการและนักลงทุนคอนโดมิเนียมสำหรับปล่อยเช่าในเมืองท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายการเดินทางของชาวต่างชาติโดยเฉพาะ เช่น ภูเก็ต พัทยา และหัวหิน ต้องปรับตัวเพื่อรับมือการท่องเที่ยวแบบ New Normal แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องมีมาตรการตรวจคัดกรองคนเข้าประเทศอย่างเคร่งครัดและมีแนวทางการจัดการที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ด้วยเช่นกัน
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook
