หน้าแรก การเมือง ก้าวไกล ดักคอรบ. อ้างโควิด ตั้งศูนย์เฟกนิวส์ หวังปิดหูปิดตาประชาชน

ก้าวไกล ดักคอรบ. อ้างโควิด ตั้งศูนย์เฟกนิวส์ หวังปิดหูปิดตาประชาชน

414
แชร์ข่าวนี้

เลขาธิการพรรคก้าวไกล ดักคอรัฐบาลตั้งศูนย์ข่าวปลอม เตือนอย่างใช้วิกฤตโควิดเป็นข้ออ้าง โยนความผิดเฟกนิวส์เอาคืนฝ่ายตรงข้าม ปิดหูปิดตาประชาชน

วันที่ 22 เม.ย. นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายตั้งกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ เพื่อดูแลอาชญากรรมทางเทคโนโลยให้ครอบคลุมทั่วประเทศว่า ปัจจุบันมีปัญหาการใช้สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม จึงเสนอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลข่าวปลอม (Fake News) ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และย้ำว่าต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้ที่กระทำความผิดอย่างจริงจังเด็ดขาด เพื่อปกป้องไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก และเกิดความสงบสุขในบ้านเมืองช่วงวิกฤตโควิด-19

นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กำลังฉวยโอกาสนี้แอบอ้างวิกฤตโควิด-19 เพื่อเร่งปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนกับการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์-ตรวจสอบรัฐบาลและผู้มีอำนาจ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นปัญหาการใช้ พ.ร.บ. ว่าด้วยการ

กระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปดำเนินคดีกับผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหรือผู้ที่ออกมาเปิดโปงความไม่โปร่งใสของคนในรัฐบาล เช่น เจ้าของเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” หรือดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ “นิรนาม” ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง นอกจากนี้ ยังมีการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อย่างผิดฝาผิดตัว เช่น ไปดำเนินคดีกับผู้ที่มีเจตนาดีนำอาหารไปบริจาคให้แก่ประชาชนที่กำลังอดอยาก ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการเยียวยาที่ไม่ทันการณ์ของรัฐบาล ดำเนินคดีกับคนไร้บ้านซึ่งพวกเขาไม่มีบ้านให้อยู่ระหว่างเคอร์ฟิว หรือขู่จะดำเนินคดีกับประชาชนที่รวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ พรรคก้าวไกลยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า รัฐบาลต้องไม่ฉวยโอกาสใช้กฎหมายความมั่นคงปิดปาก-ปิดหู-ปิดตาประชาชน เพราะเสียงของประชาชนสำคัญที่สุดท่ามกลางวิกฤตใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อคนทั้งชาติ และความมั่นคงของประชาชนอยู่เหนือกว่าความมั่นคงอื่นใด

“สิ่งที่รัฐบาลควรทำไม่ใช่การอ้างเรื่อง ‘ข่าวปลอม’ เพื่อเพิ่มมาตรการกำจัดการแสดงความคิดเห็นที่รัฐบาลและผู้มีอำนาจไม่ต้องการได้ยิน แต่ควรเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่ให้ตรงจุด ทั่วถึง และทันท่วงที พร้อมกับปรับปรุงการสื่อสารของผู้นำรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ เพื่อประชาชนเข้าใจได้ง่าย และชัดเจนเชื่อถือได้จะดีกว่า” นายชัยธวัช กล่าว


แชร์ข่าวนี้