ขอโพสต์ข้อความร่ายยาวอธิบายให้ฟังกันแบบชัดๆ ไปเลย สำหรับนักแสดงสาว นุ๊ก-สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ที่ล่าสุดเธอได้ถูกคนมาวิพาษ์วิจารณ์เรื่องหน้าตาและรูปลักษณ์ด้วยการไม่รู้ความจริง
โดย นุ๊ก สุทธิดา ได้เผยข้อความจากก้นบึ้งของหัวใจผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวไว้ว่า “ไม่น่าเชื่อว่าสมัยนี้แล้ว ยังมีคน Bully หรือ วิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเรื่องหน้าตารูปลักษณ์อยู่อีก อย่าทำเลยค่ะ มันไม่น่ารักและดูล้าสมัยมากๆ เราเกิดมาเป็นคน จำเป็นต้องพัฒนาจิตใจตัวเอง อย่าให้สิ่งสกปรกออกมาจากความคิดหรือปากเลยค่ะ พัฒนาตัวเองนะเป็นกำลังใจให้”
“แต่ยังไงเราก็ขอขอบคุณคนที่วิพาษณ์วิจารณ์หน้าตาและรูปลักษณ์ของเรานะคะ เพราะมันทำให้เราพัฒนาตัวเองได้เยอะเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องร่างกายและจิตใจ”
“คือเราป่วยเป็นมะเร็งไทรอยด์ เวลาเราพักผ่อนน้อย ทำงานหนัก หรือเครียดอะไรมากๆ ตาเราจะโปนนิดๆ บางส่วนในหน้าจะบวม แก้มจะตอบ ดูปกติอาจจะไม่เห็น แต่ถ้าเข้ากล้อง กล้องละเอียดมาก อาจจะเห็น”
“แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะถ้าพักผ่อนดีๆ ก็จะหายเป็นปกติ เราไม่ได้เข้าคลินิกทำอะไรเลยตั้งแต่มีโควิดเกิดขึ้นมาในโลกใบนี้ นอกจากเข้าไปทำในส่วนของผม เพราะผมเราร่วงเยอะจากผลของการรักษามะเร็ง และเราก็ไม่ได้รู้สึกว่าหน้าเรามีปัญหาอะไรที่ต้องไปทำ แต่ถึงแม้ถ้าหน้าตาเราจะเปลี่ยนไปอย่างถาวรด้วยอาการป่วยก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อยู่ดี เพราะการจะมองคนหรือให้ค่าใคร เรื่องผลงาน กระทำความคิด สำคัญมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่เรากำหนดเองไม่ได้เนอะ”
“แรกๆ เราก็รู้สึกแย่และเสียใจ เสียงในหัวตอนนั้นนะ
- ตรูไม่ได้ทำหน้า ตรูแค่ป่วย
- ตายแล้ว ตรูจะใช้ชีวิตยังไงต่อไป ทำงานไม่ได้เท่าเดิม
- ตรูไม่ได้เคยชอบคนหน้าวี ชอบคนมีแก้ม มันดูเด็ก แต่แก้มตรูมันหายไปเพราะอายุไหมมึง
- มึงไปถามคนในคลินิกที่ตรูเข้าได้เลย ไม่ว่าจะทำอะไรกับหน้า จะบอกเลยห้ามยุ่งกับแก้ม ไม่เอาหน้าเล็ก
- มึงรู้ไหม Anatomy คนเรา พอแก่ขึ้นกล้ามล่างจะยื่นมาข้างหน้านิดหน่อย กูไม่ได้ฉีดปาก!!! ถ้าฉีด ตรูก็ต้องสวยขึ้นสิ ไม่ใช่แย่ลง รู้ดี!!!
- ตั้งใจทำงานแทบตาย สุดท้ายดูแต่เปลือก
- ออกจากบ้านหน้ายังไม่แต่งเลย จะให้ไปทำอะไร”
“อีกครั้งนั่นแหละ เราก็ขอบคุณคนที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องหน้าตา ทำให้เราหันกลับมาดูแลตัวเอง ถึงแม้งานจะหนัก แต่เราก็ให้ความสำคัญกับตัวเองมากขึ้น ทำให้เรามีความสุขกับตัวเองมากขึ้น และเมื่อเรามีความสุขกับตัวเอง ความสัพันธ์กับคนรอบข้างและคนในครอบครัวก็ดีขึ้นไปอีก รวมถึงทำให้เราพัฒนาในเรื่องจิตใจของตัวเอง กระบวนการความคิดต่างๆ ยกระดับขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ป และพยายามจะให้มันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ”
“เช่น
1. คนที่วิจารณ์เรา เขาก็คงไม่รู้จริงๆ อะ เพราะคงไม่มีใครอยากจะพูดเรื่องไม่จริง
2. ถึงแม้เขาจะพูดในเรื่องที่ไม่มีมารยาท แต่คนเราผิดพลาดกันได้ และความผิดพลาดมันไม่ได้เป็นเพราะว่าคนคนนั้นไม่ดี คิดเป็นคนเลว แต่มันเกิดจากหลายปัจจัย แม้แต่การพักผ่อนน้อย หรือร่างกายไม่สมบูรณ์ ก็อาจจะทำให้เราเกิดความคิดลบได้
3. เราควรจะยกระดับจิตใจและความคิดของตัวเอง
4. เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว เราก็รู้สึกให้อภัยตัวเองในส่วนของความผิดพลาดที่เกิดขึ้นต่างๆ ที่ผ่านมา
5. ให้อภัยคนอื่น และเป็นกำลังใจให้มีความสุขในการใช้ชีวิตกันทุกคนนะคะ
6. ขอบคุณด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีเรื่องแย่ๆ เราจะพัฒนาตัวเองได้ยังไง”
“สุดท้าย หน้าลูกกับแม่ก็ยังเหมือนกันอยู่นะคะ ตา จมูก ปาก คาง รูปหน้า ไม่ได้ต่างกันนี้จ๊ะ”
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook