หน้าแรก สังคม แม่ช็อก! กิ้งกือสีเทายาว 3 นิ้ว ซ่อนตัวในรองเท้าลูกสาว นิ้วเท้าโดนพิษม่วงคล้ำช้ำเลือด

แม่ช็อก! กิ้งกือสีเทายาว 3 นิ้ว ซ่อนตัวในรองเท้าลูกสาว นิ้วเท้าโดนพิษม่วงคล้ำช้ำเลือด

518
แชร์ข่าวนี้

กิ้งกือซ่อนตัวในรองเท้าผ้าใบเด็ก ทำนิ้วเท้าม่วงคล้ำช้ำเลือดน่ากลัว แพทย์ชี้กิ้งกือไม่กัดแต่มีพิษ

(21 ก.ย.63) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวของลูกสาววัย 6 ขวบ ที่นิ้วเท้ากลายเป็นสีม่วงคล้ำดูช้ำเลือดช้ำหนอง เนื่องจากโดนพิษจาก “กิ้งกือ” จึงอยากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ปกครอง ให้ระวังเวลาลูกหลานจะใส่รองเท้า ให้สังเกตในรองเท้าให้ดี เพราะอาจมีอันตรายที่คาดไม่ถึงซ่อนอยู่ 

“ฝากเป็นอุทาหรณ์ แม่ๆที่มีลูกเล็ก แล้วใส่รองเท้าผ้าใบ อย่ามองข้ามสัตว์เลื้อยคลานตัวเล็กๆนะคะ มันแอบอยู่ในรองเท้า ถอดรองเท้าคือตกใจมาก นึกว่าไปเหยียบอะไรมา ทั้งถูทั้งล้างก็ไม่ออก เลยไปดูในรองเท้า แม่เจ้า กิ้งกือแอบนอนอยู่ในรองเท้า”

อย่างไรก็ตาม หมอแจ้งว่าโชคดีที่ลูกสาวไม่มีอาการแพ้ เพราะบางคนมีอาการแพ้พิษของกิ้งกือ อาจทำให้ปวดมาก คลื่นไส้ และอาเจียนได้ แล้วหมอก็ให้ยามากินพร้อมบอกให้ดูอาการ 3 วัน ซึ่งขณะนี้น้องมีอาการปกติ ไม่เจ็บไม่ปวดใดๆ สีคล้ำเริ่มจางลงแล้ว

ทางด้าน นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน อาจพบเห็นกิ้งกือในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่อยู่อาศัย สวนสาธารณะ จึงขอให้คำแนะนำแก่ประชาชนว่า กิ้งกือไม่ใช่สัตว์อันตราย ไม่กัด แต่มีพิษ หากสัมผัสถูกตัว สารพิษของกิ้งกือจะถูกปล่อยออกมาจากบริเวณข้างลำตัว มีฤทธิ์ฆ่า สัตว์เล็กๆ เช่น มด แมลง และหากคนสัมผัสจะทำให้เกิดการอักเสบเป็นผื่นแดง หรือทำให้ตาระคายเคืองในกรณีถูกพิษกิ้งกือเข้าตา 

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กิ้งกือบางสายพันธุ์เท่านั้นที่จะมีต่อมพิษอยู่ตลอดสองข้างลำตัว สามารถฉีดสารพิษพุ่งออกไปได้ไกล สารพิษมีลักษณะเป็นของเหลวใสไม่มีสี ประกอบด้วยสารกลุ่มไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide) ฟีนอล (Phenol) กลุ่มเบนโซควินิน และไฮโดรควิโนน (Benzoquinones/hydroquinones) มีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังไหม้ แผลไหม้ มีอาการปวด 2-3 วัน รวมทั้งการระคายเคืองร่วมด้วย

ทั้งนี้หากถูกพิษของกิ้งกือให้ล้างด้วยน้ำสบู่และน้ำสะอาด ทายาแก้อักเสบ โดยทั่วไปอาการมักจะหายภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากพิษเข้าตาอาจทำให้ตาอักเสบ ควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดและรีบปรึกษาจักษุแพทย์ทันที เพื่อป้องกันการอักเสบของตาที่อาจเพิ่มมากขึ้น

ขอขอบคุณ

ภาพ :เฟซบุ๊ก Vena Phungwangthong

แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้