หน้าแรก บันเทิง “ทนายเจมส์” เผยคำพูด “ซาร่า” ที่ทำให้ “ไมค์” ตัดสินใจถอนคำร้อง ด้าน ทนายนิด้า แนะอย่าเพิ่งถอน

“ทนายเจมส์” เผยคำพูด “ซาร่า” ที่ทำให้ “ไมค์” ตัดสินใจถอนคำร้อง ด้าน ทนายนิด้า แนะอย่าเพิ่งถอน

456
แชร์ข่าวนี้

ทนายเจมส์ เผยคำพูดของ ซาร่า ที่ทำให้ ไมค์ ตัดสินใจถอนคำร้อง หลังจากนี้เลิกให้เงินแต่ละเดือน แต่จะเก็บไว้ให้ลูกแทน ด้าน ทนายนิด้า ลั่นยิ่งถอนคำร้องจะยิ่งยากในการเจอลูก

รายการ ถามสุดซอย ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 22.20 – 23.15 น. ทางช่องเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย ธัญญ่า-ธัญญาเรศ เองตระกูล เปิดใจสัมภาษณ์ ทนายเจมส์-นิติธร แก้วโต และ ทนายนิด้า ประเด็นร้อน ไมค์-ซาร่า

ไมค์ตัดสินใจถอนคำร้องเพราะอะไร?

ทนายเจมส์ : “น้องรู้สึกว่าเรื่องราวใหญ่โต มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีของทั้งสองฝ่าย และกระทบกับน้องแม็กซ์เวลล์เขารับไม่ได้ที่จะมีเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ปรากฎในโลกออนไลน์แล้ววันที่ลูกโตจะกลับมาเจอ เขาก็ถามว่าจะทำยังไงดี ในเมื่อคำร้องเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องราวเหล่านี้ ผมจะถอนคำร้องดีมั้ย ผมไม่เอาแล้ว สงสารลูก นี่คือสิ่งที่เขาคิดแต่ยังไม่ตัดสินใจ จนมาวันน้องซาร่าแถลงข่าว”

“มีคำพูดนึงที่น้องซาร่าบอกว่าเขาเปิดโอกาสให้ไมค์เข้ามาดูแลน้องแม็กซ์เวลล์ เขาบอกว่าการที่เขาทำอย่างนี้กลายเป็นผลที่ไม่ดี ที่ทำให้เขาต้องมาเจ็บช้ำหรือเสียหายในปัจจุบัน ไมค์เลยมองว่าการส่งเงินให้เขา ทำให้เขาเสียหายใช่มั้ย แล้วจะทำยังไงดี ก็เลยเกิดความคิดว่าสำรองเงินของน้องมั้ยแล้วให้เป็นทุนการศึกษา เก็บไว้จนบรรลุนิติภาวะ แต่ถ้าน้องเดือดร้อนค่อยว่ากันอีกที เป็นเงินทุนสำรองไว้”

แสดงว่าเงินที่ไมค์ให้ซาร่าในแต่ละเดือน จะไม่มีการให้แล้ว?

ทนายเจมส์ : “ใช่ครับ จะเก็บไว้ในบัญชีน้องแม็กซ์เวลล์ คือความคิดแรกของเขา เขาจะเก็บเงินทุนให้แม็กซ์เวลล์ เขามีความคิดนี้ตั้งแต่ปี 2018 เขาจะฝากไว้เดือนละหมื่น 24 เดือนฟิกซ์ไว้เลย พอครบ 24 เดือนก็ไม่ได้จ่ายอีก เพราะเอาอีกหมื่นจ่ายให้น้องซาร่าจากเดือน 3 หมื่นเป็น 4 หมื่น พอไปจ่ายตรงนั้นเสร็จปุ๊บ เงินในบัญชีก็คาอยู่ 2.45 แสน รวมดอกเบี้ย เขาก็เลยคิดว่าจะปิดบัญชีนั้นและโยกเงินมาฝากเป็นเงินทุน หลังจากนั้นก็ฝากเงิน 3 หมื่นเข้าบัญชีนั้นไปแล้ว”

ถ้าเขาเลี้ยงคนเดียวไปเรื่อยๆ ค่าใช้จ่ายไม่ไหวขึ้นมา จะเจรจาต่อรองได้มั้ย?

ทนายเจมส์ : “ผมว่าลูกทั้งคน ต่อให้ไม่เดือดร้อนแต่มาขอความช่วยเหลือ ไมค์เขายินดีอยู่แล้ว สังเกตว่า 6 ปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้สิทธิอะไรในตัวลูกเลยนะ แต่เขาก็ยังจ่ายเลย ณ ปัจจุบันถ้ามีอะไรที่เดือดร้อน หรือมีเรื่องต้องเอาไปใช้เกี่ยวกับลูก บอกมาไมค์ช่วยแน่นอน”

หลังน้องซาร่าออกมายอมรับว่ามีลูกใหม่กับผู้ชายอีกคน เกี่ยวมั้ย ไมค์กลัวเอาเงินไปให้ลูกและสามีใหม่?

ทนายเจมส์ : “ไม่น่าจะเกี่ยว เพราะเขามีสามีและลูกใหม่เขาตัดสินใจแล้ว ว่าเขามีศักยภาพเพียงพอ เมื่อประเมินแล้วตัวเองมีศักยภาพเพียงพอในการเลี้ยงลูกก็ไม่เกี่ยวอะไรกับแม็กซ์เวลล์ การที่่ส่งเงินแล้วน้องกินบ้าง แม็กซ์เวลล์กินบ้างก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเด็กก็คงทานคล้ายๆ กัน จะไปคิดเล็กคิดน้อยคงไม่ไหว เด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จะเอาเรื่องผู้ใหญ่ไปลงที่เด็กก็ไม่ใช่”

เรื่องค่าเทอม ซาร่าต้องจัดการเอง?

ทนายเจมส์ : “หน้าที่ในการอุปการะเลี้ยงดูบุตรจะเริ่มต้นก็ต่อเมื่อ เป็นบิดามารดาโดยชอบด้วยกฎหมายก่อน ณ วันนี้ไมค์ยังไม่มีหน้าที่ตรงนั้น เพราะมิใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย”

ตอนนี้ไมค์ตัดสินใจร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่าจะปฏิบัติอย่างนี้?

ทนายเจมส์ : “ครับ ผมเชื่อลึกๆ ว่าน่าจะมีการคุยกันในเร็วๆ นี้ ถ้าจังหวะมันได้ เพราะตอนนี้ก็คงแรงกันอยู่”

สภาพจิตใจไมค์ดีขึ้นมั้ย?

ทนายเจมส์ : “ดีขึ้นมาก น้องเขามีสมาธิมากขึ้น เวลาคุยกัน เขามีการตอบโต้ที่ดีกว่าแต่ก่อนเยอะ นั่นหมายถึงเขาปลดความทุกข์ที่เก็บไว้ 6 ปี ได้ระบายออกมา และมีความสบายใจมากยิ่งขึ้น”

เขาได้เจอลูกหรือยัง?

ทนายเจมส์ : “ยังครับ อันนี้ก็แล้วแต่ความกรุณาน้องซาร่า เพราะล่าสุดส่งข้อความไปขอพบลูก คือน้องเขาตอบว่าจะมาพบลูกได้ทุกเวลาเลยนะ ซึ่งไมค์เลยส่งข้อความไปว่าขอเจอวันไหนได้ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบมา เขาอาจจะยุ่งอยู่”

ข้อเรียกร้องที่หายไป ห้ามนำบุตรไปรายได้ ไมค์เคยทำแบบนี้มั้ย?

ทนายเจมส์ : “ไม่เคยเลยครับ เท่าที่ถามนะ”

ถ้ายกเลิกไปแล้ว มีโฆษณาติดต่อมาให้ถ่ายงานคู่แม็กซ์เวลล์ก็ได้?

ทนายเจมส์ : “มีเยอะนะ ให้ถ่ายงานคู่ แต่น้องเขาไม่เอา ไมค์ไม่รับเลย เขาคิดว่าไม่เหมาะสม ไม่พร้อม เขาก็เลยไม่เคยถ่าย มีติดต่อมาเยอะเลย”

การที่ซาร่าปิดเรื่องลูกสาว คิดว่าเป็นยังไง?

ทนายเจมส์ : “เป็นเรื่องส่วนตัวของเขานะ จะมีลูกหรือมีครอบครัวใหม่เป็นสิทธิของเขา ในเมื่อไม่มีพันธะผูกพันกันแล้ว ถึงแม้เขาจะมีลูกมีแฟน เรื่องของเขาเลย”

ไมค์ทราบมาก่อนมั้ยว่ามีลูกมีแฟนใหม่?

ทนายเจมส์ : “ผมไม่รู้ว่าตอนเขาพามาเจอกันแนะนำในฐานะอะไร”

คนที่ไปเจอที่คอนโด ใช่สามีแม่บ้านจริงหรือเปล่า ใช่แฟนใหม่ซาร่ามั้ย มีการตั้งคำถามขึ้นมา?

ทนายเจมส์ : “คนที่ไมค์ไปเจอที่คอนโด เป็นคนไทยมีอายุนิดนึง เท่าที่เห็นจากคลิป เขาบอกว่าเป็นญาติซาร่ามาขนของ”

4 ข้อเรียกร้อง ซาร่าเป็นคนเลี้ยงดูลูกมาตั้งแต่เกิด มีสิทธิ์ปกครองลูกคนเดียว?

ทนายเจมส์ : “อันนี้ต้องเรียนย้อนไปเนื้อหาคำร้องที่ร้องก่อน เนื้อหาคือขอจดทะเบียนรับรองบุตร และขอใช้อำนาจปกครองร่วม ไม่ได้มีคำขอท้ายคำร้องเลยว่าให้น้องซาร่าส่งเด็กมาให้ดูแล ฉะนั้นการที่น้องจะมีอำนาจปกครอง เป็นได้ตามกฎหมายอยู่แล้ว สองมีสิทธิ์ในการดูแลลูก  อันนี้ก็เป็นไปตามธรรมชาติอยู่แล้วเพราะน้องเขาดูแลมาตลอด 6 ปี ไมค์ไม่มีความคิดไปพรากน้องแม็กซ์เวลล์มาจากซาร่าเลย สิ่งที่เขายื่นคำร้องไป แค่เพียงอยากได้สิทธิในการติดต่อบุตรบ้าง แค่นั้นเอง”

ข้อที่สอง ไมค์ทำงานอยู่จีนตลอด ทำให้ยากต่อการตัดสินใจอนาคตลูก ถ้าหากมีสิทธิ์ในการปกครอง?

ทนายเจมส์ : “ในส่วนการไปทำงานที่ประเทศจีน ผมว่าการตัดสินใจสามารถโทรศัพท์หรืออีเมล์กันได้ เพราะที่ผ่านมาเท่าที่ทราบเขามีการขอไมค์รับรองให้ลูกเขาไปต่างประเทศได้ เขาก็ส่งอีเมล์กลับไป เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีไปไกลแล้ว การส่งเอกสารหรือให้ความยินยอม สามารถติดต่อได้ตลอด ไม่เป็นอุปสรรคเลย ถ้าจะให้กันจริงๆ”

ข้อที่สาม ไมค์ไม่สามารถมีเวลาให้ลูกเต็มที่ ด้วยหน้าที่การงาน?

ทนายเจมส์ : “อันนี้ผมเห็นด้วย เพราะน้องอยู่ต่างประเทศ ข้อเรียกร้องที่ต้องการคือสิทธิในการติดต่อบุตร เยี่ยมเยียนตามสมควร เพราะตอนนี้น้องรู้สึกว่าถูกกีดกันหรือไม่ แค่นั้นเอง”

ข้อที่สี่ ทั้งคู่ไม่ได้แต่งงานกัน ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ถึงขอสิทธิเลี้ยงลูกเพียงคนเดียว ไมค์มาเจอลูกได้ หากมีค่าใช้จ่ายลูกออกกันคนละครึ่ง?

ทนายเจมส์ : “ถ้าจะเป็นประเด็นเรื่องค่าเทอม ค่าอุปการะเลี้ยงดู มันอยู่ที่ข้อตกลง มันย้อนกลับไปคำถามแรกที่อธิบายว่าไมค์ไม่ใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูหรือให้การศึกษาบุตร แต่การที่เขาทำมาโดยตลอด เขาทำโดยมนุษยธรรม ทำโดยหน้าที่ของพ่อโดยสายเลือด ไม่ใช่พ่อที่ชอบด้วยกฎหมายนะ แต่โดยหน้าที่พ่อโดยสายเลือด”

ตัวซาร่าและไมค์ จะมีการคุยแบบเปิดใจด้วยเหตุผลกันจริงๆ มั้ย?

ทนายเจมส์ : “มีโอกาสแหละ ผมว่าทั้งสองฝ่ายควรทิ้งทิฐิและเอาผลประโยชน์เด็กเป็นที่ตั้งก่อน เพราะตอนนี้ผมเชื่อว่าข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในอินเตอร์เน็ต ยากจะลบเลือนได้ ในอนาคตภายภาคหน้า ถ้าแม็กซ์เวลล์อ่านออกเขียนได้เสิร์จข้อมูลได้ ผมว่าถ้าเขาเห็นอะไรต่างๆ เหล่านี้ มันไม่ดีสำหรับเด็ก เขารู้สึกแน่นอน แต่ ณ วันนี้ทำยังไงถึงจะหยุด ระงับยับยั้งเหตุที่เกิดนี้ได้ นี่แหละจึงเป็นที่มาว่าไมค์พอแล้ว บีบก้อนหินในมือ ยิ่งเจ็บมือเองครับ”

ถ้าตัวซาร่าไปรับงานกับแม็กซ์เวลล์ได้มั้ย?

ทนายเจมส์ : “ที่ผ่านมาเขาก็รับของเขาเองอยู่แล้ว อย่าลืมว่าเขามีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงคนเดียว เพราะงั้นเขาจะพาไปรับงานใดๆ ก็แล้วแต่ ทำได้หมด และไมค์ก็ไม่เคยห้าม มันเป็นการแสดงความสามารถของเด็กซะด้วยซ้ำ”

น้องไมค์ติดใจอะไรมั้ย ตัวเองเอาไปไม่ได้?

ทนายเจมส์ : “แต่ก่อนอาจติดใจ แต่ ณ วันนี้น้องเขาทำใจได้แล้ว”

ทนายนิด้านั่งอยู่กับเราด้วย ต้องบอกว่าทนายเจมส์ดูแลคุณไมค์ เป็นผู้ชายอาจเข้าข้างกัน ทนายนิด้าในฐานะเป็นผู้หญิง ถ้าเกิดได้ดูแลคุณซาร่า มีอะไรอยากนแนะนำ?

ทนายนิด้า : “ถ้าทางคดี เราก็ต้องแนะนำในแง่มุมกฎหมายอยู่แล้วว่าทำอะไรได้บ้าง เรียกร้องอะไรได้บ้าง”

หกข้อเรียกร้องตอนแรกเป็นไปได้มั้ย?

ทนายนิด้า : “มันมีส่วนที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ หลักๆ เลยขอพูดเรื่องกฎหมายก่อน ว่ากฎหมายถูกระบุไว้อยู่แล้วว่าคนเป็นบิดามารดามีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตร ดังนั้นจึงไม่ใช่ไมค์หรือซาร่าคนเดียวแน่ๆ การเรียกร้องตรงนี้ ในความเป็นจริงต้องแชร์ ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง”

กับข่าวที่ออกมา ไมค์ถอนคำร้อง คิดว่าเห็นด้วยมั้ย?

ทนายนิด้า : “จริงๆ ก็ดีนะคะ ถ้ามุ่งถึงตัวเด็กและสภาพจิตใจเป็นหลัก นิด้าก็มองว่าสถานการณ์แบบนี้ก็ตอบโจทย์ เห็นด้วย”

น้องซาร่าควรเบากว่านี้มั้ย ควรยอมให้ไมค์เข้ามามีสิทธิ์ในการดูแลลูกด้วย?

ทนายนิด้า : “ถ้าน้องซาร่าบอกว่าไม่ให้ ต้องดูว่าด้วเหตุผลอะไร ตัวน้องไมค์จะก่อให้เกิดผลเสียอะไรต่อแม็กซ์เวลล์ ถ้ามันไม่มีเลย มันตอบคำถามนี้ไม่ได้เลยว่าการที่น้องไมค์จะเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย จะทำให้น้องแม็กซ์เวลล์เสียหายอย่างไร นิด้าว่าถ้าตอบคำถามนี้ไม่ได้ การให้มาเป็นจะเป็นประโยชน์ เมื่อตัวน้องไมค์เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย สิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย เกิดขึ้นกับเด็กทันที”

ตอนนี้มีข้อสงสัยหลายอย่าง อย่างซาร่าไม่ให้ไมค์เจอลูก เป็นการแกล้งไมค์หรือเปล่า?

ทนายนิด้า : “แกล้งมั้ยข้อนี้นิด้าไม่ทราบจริงๆ ว่าด้วยเหตุผลกลใด แต่ถ้าการมาแล้วตอบได้ว่าทำให้น้องแม็กซ์เวลล์เสียสุขภาพจิตใจหรือร่างกาย ก็เป็นเหตุผลที่จะหวงกันได้ ไม่ให้บิดาได้เจอเด็ก แต่ถ้าไม่ได้มีอะไรที่เป็นข้อนั้นเลย ก็มองไม่เห็นเหตุผลเพราะอะไรเด็กถึงไม่สมควรเจอพ่อ”

ทนายเจมส์ : “ไม่มีใครตอบได้ว่าเหตุผลที่ไม่ให้เจอเพราะอะไร คนตอบได้คือน้องซาร่าเท่านั้น ณ วันนี้ถามว่าแกล้งมั้ยไม่รู้ แต่ความรู้สึกไมค์ไปแล้วว่าเขาถูกกีดกัน เขาถึงไปยื่นคำร้อง”

คนดูรู้สึกว่าทำไมการที่พ่อเจอลูกยากจังเลย?

ทนายเจมส์ : “พูดถึงตัวอย่างที่เคยทำดีกว่า มันจะมีเรื่องของทิฐิ เรื่องการเจ็บช้ำน้ำใจ เรื่องกลยุทธ์การอุปการะเลี้ยงดู นี่หมายถึงครอบครัวอื่นนะ เขาเหมือนเอาเด็กมาเป็นตัวประกัน ให้ได้สิทธิตามที่ตัวเองต้องการ ตามที่เรียกร้อง แต่กรณีนี้ต้องถามเขาว่าเพราะสาเหตุอะไรถึงไม่ให้เจอ”

จะมีวิธีไหนทำให้พ่อลูกเจอกันได้ง่ายขึ้น?

ทนายนิด้า : “ถ้าในมุมนิด้า น้องไมค์ต้องไม่ถอนคำร้อง เพื่อให้มีสิทธิในการปกครองลูก แต่แม่ไม่มีสิทธิ์กีดกันบิดากับบุตร แต่ทีนี้ ณ วันนี้น้องไมค์เลือกเส้นทางถอนคำร้องไปจากศาล ก็จะไม่มีประเด็นนี้อยู่ ดังนั้นโอกาสที่จะเจอกันก็จะยากมากขึ้นไปอีก” 

ทนายไม่อยากให้ถอนมั้ย?

ทนายเจมส์ : “ในมุมผมให้คำแนะนำลูกความ ไปทางซ้ายเป็นผลยังไง ไปทางขวาเป็นผลยังไง ไปตรงกลางเป็นผลยังไง เราให้เหตุผลทางกฎหมายเขาไปแล้ว ส่วนการตัดสินใจอยู่ที่ลูกความ บังคับเขาไม่ได้ ในเมื่อเขาตัดสินใจแบบนี้ เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของลูกความ ส่วนการได้เจอหรือไม่ เป็นเรื่องในอนาคต ผมเชื่อว่าถ้ามีคนกลางที่เป็นผู้ใหญ่ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและมุ่งตัวเด็กเป็นสำคัญ ผมเชื่อว่าไมค์จะได้เจอลูกเร็วๆ นี้”

ถ้าถอนคำร้อง จะทำให้ซาร่าถือไพ่เหนือกว่า?

ทนายเจมส์ : “แล้วแต่มุมมองคนที่จะคิด แต่ในมุมพ่อเขามีความรักอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีจืดจาง ไม่มีลดแน่นอน เพียงแต่ว่า ณ วันนี้เขาไม่ได้เจอ เขาเสียใจ ทุกข์ใจ แต่ถ้าเขารับได้กับสภาพแบบนี้ ทุกอย่างก็จบ ตั้งหน้าตั้งตาหาเงินไป และเก็บเงินให้ลูกไป ผมเชื่อว่าวันนึงลูกจะรู้ความจริงทุกอย่าง”

ควรมีข้อกำหนดให้ชัดเจนมั้ยว่าน้องไมค์จะได้เจอลูกวันไหนบ้าง?

ทนายเจมส์ : “ต่อให้มีข้อกำหนดขึ้นมา นอกศาลไปบังคับอะไรกันไม่ได้ เพราะเขาไม่ใช่พ่อโดยชอบด้วยกฎหมาย”

ทนายนิด้า : “ถ้าไม่พูดในฐานะทนายความ นิด้าอยากให้น้องไมค์เดินหน้าต่อเลยนะ”

เรื่องที่เรียน ที่อยู่ต่างๆ มีการเซ็นกันตายตัวได้มั้ยว่าพ่อต้องได้เจอลูกวันไหนๆ ได้บ้าง?

ทนายนิด้า : “เท่าที่ดูข่าวที่ออกมา นิด้าว่าทางไมค์เขาชัดเจนมากว่าเขาประสงค์แค่ว่าอยากมีเวลาที่อาจบินกลับจากต่างประเทศ ได้เอาลูกมาเล่นบ้าง มาเลี้ยงบ้าง มาค้างคืน หรือไปเที่ยวไหนบ้าง”

ทนายเจมส์ : “ประเด็นคือมันลำบากมากยิ่งขึ้น เพราะลูกไปอยู่ภูเก็ต บ้านน้องไมค์และญาติๆ อยู่กรุงเทพฯ แล้วจะไปหาลูกกันยังไง เงื่อนไขนึงที่ผมเคยขอเขาไว้ว่าหาแผนสำรองไว้ก่อน ถ้าซาร่าเขาโอเค ไมค์เตรียมโรงเรียนไว้แล้ว และเตรียมที่พักไว้ด้วย ก่อนหน้าตัดสินใจถอนคำร้อง เตรียมโรงเรียนไว้ที่กรุงเทพฯ แล้วย้ายเด็กมาเรียนที่นี่ ถ้าแม่เขายอม เด็กสับสนนิดหน่อยไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยปรับตรงนั้นทั้งเรื่องการเรียนและที่อยู่ แต่พอมีปัญหาเรื่องปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามาแทรกแซงก็เป็นอย่างนี้ ทะเลาะกันในสื่อ”

การที่น้องซาร่ามีลูกเพิ่มอีกหนึ่งคน มองยังไง?

ทนายนิด้า : “ก็เป็นสิทธิของน้อง ชีวิตก็ดำเนินต่อไป แต่ว่าสิ่งที่ห่วง กังวล ตอนนี้เลยคือตัวน้องแม็กซ์เวลล์มากกว่า น้องจะได้รับการอุปการะเลี้ยงดูการศึกษาอย่างเต็มที่อย่างที่เขาควรได้รับหรือเปล่า เพราะพูดตรงๆ การเลี้ยงดูลูก ค่าใช้จ่ายสูงมาก”

ทนายเจมส์ : “ประเด็นการมีครอบครัวใหม่ก็เป็นสิทธิน้องเขา ถ้าในอนาคต สมมติอย่างครอบครัวที่เราเคยเจอ ลูกเก่ากับลูกใหม่เข้ากันไม่ได้ หรือน้องแม็กซ์เวลล์ไม่สามารถเข้ากับพ่อเลี้ยงได้ เราก็ใช้กฎหมายไปร้องขอคุ้มครองเด็ก เพื่อให้มาอยู่ในความดูแลของพ่อได้ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ยังไม่เกิด เราจะไปมโนขึ้นเองไม่ได้”

เรื่องที่มีข่าวว่าขอตรวจดีเอ็นเอจากคุณพ่อฝั่งโน้น?

ทนายเจมส์ : “เรื่องนี้ผมไม่ทราบเลยครับ”

พ่อขอตรวจดีเอ็นเอลูก จะมีปัญหากับเด็กในอนาคตมั้ย เหมือนไม่มั่นใจว่าเป็นลูกเราหรือเปล่า?

ทนายเจมส์ : “ไม่ครับ การตรวจดีเอ็นเอ ประเด็นนึงที่เคยเจอ สามีภรรยาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แล้วเขาไปตรวจเพื่อเอาเป็นหลักฐานยืนยันกับศาลว่านี่คือลูก ขอจดทะเบียนรับรองบุตร อะไรแบบนี้ และเคยเจอเคสนึงสามีภรรยาอยู่กินด้วยกันไม่ได้จดทะเบียน แล้วเลิกกัน ลูกติดท้องไป กลายเป็นว่าคนแจ้งเกิดคือสามีใหม่ไปแจ้งเกิดเป็นบิดา ซึ่งเขาไม่รู้จนตอนหลังมีการตรวจดีเอ็นเอ 4 คนคือลูก สามีเก่า สามีใหม่และผู้หญิง สุดท้ายดีเอ็นเอยันว่าเป็นลูกสามีเก่า เขาถึงได้ไปยื่นคำร้องขอรับรองบุตร สามีใหม่เขาก็เลิกกัน การตรวจดีเอ็นเอไม่ได้เสียหายนะครับ เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงกรณีสามีภรรยาไม่ได้จดทะเบียนสมรสแค่นั้นเอง”

คิดว่าอีกนานมั้ย น้องไมค์จะได้เจอแม็กซ์เวลล์?

ทนายนิด้า : “ตอบไม่ได้เลย เพราะเราไม่รู้ใจแต่ละคนว่าเขาติดขัดอะไร และคิดอะไร ถ้าเป็นนิด้าส่วนตัวจะไฟเขียวทุกอย่าง เพราะสุดท้ายประโยชน์ตกกับเด็ก แต่ถามว่านอกเหนือจากสิ่งนี้ ก็ตอบแทนไม่ได้ว่าน้องซาร่าติดขัดหรือคิดอะไร ก็เลยประมาณไม่ได้ว่าจะไปสิ้นสุดตรงไหน ไมค์จะได้เจอลูกเวลาไหน”

ทนายเจมส์ : “เอาตรงๆ อยู่ที่ความกรุณาซาร่า เพราะอำนาจร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่ที่เขา เขาคนเดียวที่จะมีอำนาจตัดสินใจ จากที่ดูมีทนายใหม่มาดูแลคืออ.ประมาณ ท่านค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ ผมเชื่อว่าอ.ประมาณจะเห็นประโยชน์ของเด็กเป็นสำคัญ การได้พบเด็กในเร็ววันนี้ ผมเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้”

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้