เกิดอุบัติเหตุระหว่างรถยนต์เก๋งกับรถยนต์กระบะสีขาว โดยรถยนต์เก๋งสีขาว ซึ่งมีผู้ขับขี่เป็นข้าราชการชาย สำนักงานเกษตรอำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา ได้ขับข้ามเลนเข้ามาชนประสานงากับรถยนต์กระบะที่สวนทางมา ทำให้ผู้หญิงและเด็กหญิงรวม 2 คนในรถยนต์กระบะได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยอ้างว่าชายข้าราชการผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งมีอาการมึนเมา และหลังก่อเหตุได้เอะอะโวยวาย ไม่ยอมรับผิด เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวานนี้
ล่าสุดวันนี้ (3 ธ.ค.63) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นางรวยริน พิมพ์ปรุ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองตะไก้ อำเภอหนองบุญมาก คนขับขี่รถยนต์กระบะผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ขณะนั้นตนได้ขับขี่รถยนต์กระบะมาพร้อมกับหลานสาว คือ เด็กหญิงกรองแก้ว อายุ 4 ปี ใช้เส้นทางถนนสายบ้านหนองยายเทียม-บ้านหนองตะไก้ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากแยกบ้านหนองตะไก้ ประมาณ 500-600 เมตร ตนก็เห็นรถยนต์เก๋งของคู่กรณีขับส่ายไปส่ายมา ก่อนที่รถยนต์คันดังกล่าวจะขับข้ามเลนพุ่งเข้ามาชนประสานงากับรถยนต์ของตนอย่างจัง ทำให้ตน และหลานสาวได้รับบาดเจ็บ
ซึ่งขณะนั้นตนต้องคลานออกมาจากรถ และตนเห็นชายคนขับรถยนต์เก๋งคู่กรณี ซึ่งตนจำได้ว่าทำงานเป็นข้าราชการสังกัดสำนักงานเกษตร เพราะเคยทำงานร่วมกันมาในพื้นที่ จากนั้นก็ได้ยินเสียงชายคนขับรถยนต์เก๋งคู่กรณีพูดจาคล้ายคนมีอาการมึนเมาเอะอะโวยวายด่าทอชาวบ้านที่เข้าไปสอบถามเหตุการณ์ และช่วยเหลือ โดยหลังเกิดเหตุตนถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งตนได้รับบาดเจ็บกรามหัก และตับฉีกขาด ส่วนหลานสาววัย 4 ปี ได้รับบาดเจ็บไหปลาร้าหัก ทั้งนี้ตนอยากให้คนขับรถยนต์เก๋งคู่กรณีมารับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ด้านพันตำรวจเอก สมชาย คมพยัคฆ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองบุญมาก เปิดเผยความคืบหน้าถึงเรื่องคดีดังกล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าว ผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งคู่กรณีไม่ได้เป็นเกษตรอำเภอหนองบุญมากตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ซึ่งผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งทำงานตำแหน่งเกษตรตำบลหนองตะไก้ อ.หนองบุญมาก ซึ่งหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้นำตัวผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้สูงถึง 237 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ขับขี่รถขณะมึนเมาสุรา และขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook
