พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ดีเด่นระดับชาติ เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ (อสม.) ประจำปีพุทธศักราช 2564 พร้อมขอบคุณ อสม. ที่ช่วยกันดูแลสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในไทย ทำให้ต่างชาติทึ่งว่าไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี จนได้รับการยกย่องเป็นผู้นำด้านสาธารณสุขลำดับต้นๆของโลก พร้อมแสดงความห่วงใย อสม. ดูแลป้องกันสุขภาพของตนเองให้ก่อน ก่อนลงพื้นที่ไปดูแลชาวบ้าน
ขณะเดียวกัน ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย โดยให้กระทรวงสาธารณสุข มหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งใกล้ชิดกับประชาชนให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน หากทุกคนเคารพกฎหมายเป็นเรื่องที่ดี ช่วยทำให้ประเทศชาติ
นายกรัฐมนตรี ยังพูดถึงกระแสดราม่า ว่า ตนเองจะทำอะไรก็ดราม่า เช่น การ ฉีดวัคซีน เมื่อวานนี้ เป็นว่าฉีดปลอมหรือเปล่า นำน้ำเปล่า หรือน้ำเกลือ มาฉีดให้เปล่า จึงตำหนิสื่อที่นำเสนอกระแสข่าวดังกล่าว ส่วนตัวนั้นพร้อมที่จะฉีดทุกเมื่อขึ้นอยู่กับคณะแพทย์ที่จะให้คำแนะนำ หลังมอบรางวัลให้ อสม. ยังย้ำเรื่องดราม่าวัคซีนปลอม ว่าสื่อรู้อยู่แล้วเป็นการแสดงความเห็นในโซเซียล แต่กลับนำไปขยายความ ที่ตนพูดเพราะอยากให้คนเหล่านี้ เลิกทำตัวแบบนี้เสียที เพราะไม่ ไม่เกิดประโยชน์ไม่สร้างสรรค์อะไรสักอย่าง พร้อมถามกลับว่าจะเขียนแบบนั้นให้กลับไปดูตัวเองว่าทำความดีอะไรมาบ้าง ซึ่งการโพสต์ข้อความต่างๆ ไม่น่าฟังส่วนตัวไม่ได้โกรธเพราะกดไม่ได้ขอแค่ตัวอย่าไปขยายความก็จบแล้ว
นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ประชาชน เฝ้าระมัดระวัง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ป้องกันตัวเอง ให้ความร่วมมือใส่หน้ากากเพราะใส่เฟซซิล อย่างเดียวไม่ได้ ให้เล่นแต่พอเพียงตามประเพณี รดน้ำ ขอพร ไม่ใช่เมาแล้วขาดสติ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีชาวบางกลอย จ.เพชรบุรี ที่กลับมาชุมนุมใหม่ หลังมีการส่งกลับเมื่อวานนี้ เนื่องจากไม่สามารถเข้าพื้นที่ใจแผ่นดินได้ นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า เข้าได้หรือไม่ แล้วสื่อรู้หรือไม่ว่าเข้าพื้นที่ได้หรือไม่ได้เพราะอะไร เพราะพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่อุทธยาน และเป็นพื้นที่ต้นน้ำชั้น 1 และศาลมีคำสั่งอย่างไร รวมไปถึงรัฐบาลได้มีการจัดหาพื้นที่ให้อยู่อาศัย มีการดูแลพื้นที่ตรงนั้นให้สามารถทำการเกษตรได้ โดยขอให้เปรียบเทียบประชาชนส่วนอื่นในประเทศไทย ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะมีที่ดินทำกินซึ่งวันนี้คนไทย ทั่วไปก็ไม่พอใจ แต่ยืนยันว่า รัฐบาลดูแล คนไทยและกลุ่มชาติพันธ์ แต่ต้องทำให้เกิดความเท่าเทียมกัน ส่วนคนที่สนับสนุนในเรื่องนี้ถือว่าเป็นคนไม่รับผิดชอบไปสร้างความขัดแย้ง สร้างความไม่เข้าใจกัน แล้วทำให้เกิดผลกระทบต่อการทำงาน ตนไม่อยากจะพูด แต่ไม่ขอโทษเขาตนโทษคนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งก็รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง ส่วนที่ฝ่ายการเมืองใช้ประเด็นดังกล่าวโจมตี นายกรัฐมนตรีระบุว่า “ซึ่งสื่อเองรู้แล้วมาถามผมทำไม”
ส่วนความคืบหน้าการปรับ ครม.ว่าได้รับรายชื่อ ครม.จากพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนนำเสนอรายชื่อทูลเกล้าฯ
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews
