กลุ่มตัวแทนผู้เสียหาย จากการร่วมลงทุนในกลุ่มบริษัททัวร์ชื่อดัง เข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้ดำเนินคดี หลังถูกหลอกให้ซื้อบัตรกำนัล ที่ให้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผลสูง ร้อยละ3-20 ต่อเดือน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับแชร์โซ่
นางดเรศ นิติบันยัดกร หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ได้ร่วมลงทุน ประมาณ 1.3 ล้านบาท กับบริษัททัวร์มานานประมาณ 1 ปี ได้รับผลตอบแทนร้อยละ 5.9 ในเวลา 39 วัน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา แต่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาพบความผิดปกติ เนื่องจากไม่ได้รับเงินปันผลตามที่ตกลง และเมื่อทวงถามบริษัทอ้างว่าระบบธนาคารล่มไม่สามารถโอนเงินได้ ต่อมาบริษัทได้ออกโปรโมชั่นพิเศษว่าจะได้รับผลตอบแทนเท่าตัว เช่น ลงทุน 1 แสนจะได้รับเงิน 2 แสน ในเวลา 3 วัน จึงทำให้มีคนหลงเชื่อร่วมลงทุนอีกจำนวนมากเพื่อหวังจะได้รับเงินคืนทั้งเงินค้างเก่าและของใหม่จนสุดท้ายสูญเงินทั้งหมด
ด้าน น.ส.ปิยะพร คงงาม ผู้เสียหายอีกราย เล่าว่าส่วนสาเหตุที่ทำให้ตนเองหลงเชื่อ เพราะบริษัทมีที่ตั้งชัดเจน มีบริษัทในเครือกว่า 20 บริษัท และมีการตั้งสหกรณ์ให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจผสมผสาน อีกทั้งประธานบริษัท อ้างว่าตนเองเป็นจิตรอาสาและจะนำเงินบางส่วนไปช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติ
นายปิยศิริ วัฒนวรางกูร ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะรองโฆษก กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าการดำเนินการของบริษัทมีทั้งจริงและเท็จ ซึ่งทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเชิญตัวแทนบริษัทและตัวแทนผู้เสียหายเข้าสอบสวนพร้อมกับแบบคู่ขนาน เพื่อความรวดเร็วและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ต้องรอคณะกรรมการพิจารณาอีกครั้ง นอกจากนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมาพบความผิดปกติของการร่วมลงทุนในบริษัทดังกล่าวและได้แจ้งเตือนประชาชนไปแล้ว แต่มีบางส่วนยังหลงเชื่อร่วมลงทุนจนกระทั่งเกิดปัญหา
ส่วนกรณีที่บริษัทได้ข่มขู่ผู้เสียหายว่าหากเข้าแจ้งความจะไม่ได้คืนเงินนั้น ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สร้างคิวอาร์โค้ดให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความและให้ข้อมูล เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้รวบไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews
