หน้าแรก สังคม ไฟไหม้โรงงานย่านท่าข้ามเสียหาย100ล้าน

ไฟไหม้โรงงานย่านท่าข้ามเสียหาย100ล้าน

458
แชร์ข่าวนี้

ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงานทินเนอร์และลุกลามต่อไปยังโรงงานพลาสติกในซอยท่าข้าม 14 จนกระทั่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอีก 1 คน เมื่อวานนี้

ล่าสุด พันตำรวจเอก เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผู้กำกับการ สน.ท่าข้าม เปิดเผยว่า ในเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน จะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในบริเวณโรงงานทินเนอร์ก่อน และจะตรวจสอบต่อไปยังจุดที่พบศพผู้เสียชีวิตภายในโรงงานพลาสติกที่อยู่ติดกัน โดยจะเป็นการตรวจสอบหาต้นตอของเหตุเพลิงไหม้ สาเหตุการลุกไหม้ และสาเหตุการเสียชีวิต จากจุดเกิดเหตุที่โรงงานพลาสติก โดยจะมีการเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบหาสาเหตุว่า เพลิงไหม้ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากอะไร เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้ทิ้งประเด็นใดๆทิ้ง ทั้งเรื่องของอุบัติเหตุ ไฟฟ้าลัดวงจร อุปกรณ์เสื่อมสภาพ หรือเหตุที่เกิดขึ้นจากบุคคล ต้องรอการสรุปสาเหตุจากกองพิสูจน์หลักฐานเป็นแนวทางในการสืบสวนสอบสวนอีกครั้ง

ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ จะเตรียมสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ทั้ง 2 โรงงาน โดยเฉพาะเจ้าของโรงงานทินเนอร์ต้นเพลิงที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่วนพยานแวดล้อม ตำรวจได้เตรียมเรียกสอบปากคำเพิ่มเติมอีกหลายสิบปาก

นายชัยวัฒน์ เอื้อวิเศษวัฒนา ลูกชายเจ้าของโรงงานที่ถูกเพลิงไหม้ เล่าให้ฟังว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ใหญ่ที่สุดของครอบครัว เนื่องจากโรงงานดังกล่าว ตั้งมานานกว่า 30 ปี ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ เบื้องต้นประเมินความเสียหาย เกือบ 100 ล้านบาท แต่โรงงานมีประกันภัย

ส่วนรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่ทราบว่าเกิดเหตุหลังโรงงานอยู่ในช่วงปิดทำการ แต่ทางครอบครัวก็มีบ้านพักอาศัยภายในพื้นที่ของโรงงานด้วย ซึ่งตัวบ้านพักอาศัยก็ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้วอดทั้งหลัง แต่จากเหตุการณ์นี้ คนในครอบครัว ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากเหตุเพลิงไหม้ แต่พ่อซึ่งมีอายุมาก และตกใจกับเหตุการณ์ จึงต้องนำส่งโรงพยาบาลเพื่อพักฟื้นร่างกาย

ส่วนโรงงานใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบ ประกอบกิจการเสื้อผ้าส่งออก เป็นอาคารสูง 5 ชั้น ซึ่งอยู่ติดกันได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด

ส่วนรายละเอียด ยังไม่ได้คุยกัน เพราะพ่อยังอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนแนวทางหลังจากนี้ต้องมีการหารือกับคนในครอบครัวว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้