เป็นอีกหนึ่งสาวมากความสามารถ ที่ใครต่อใครหลายคนยกให้เป็นไอดอลในหัวใจ สำหรับ เมย์-ปทิดา กำเนิดพลอย หรือที่รู้จักในชื่อ เมย์ เฟื่องอารมย์ และถึงแม้เธอจะขอเบรกงานทางด้านการแสดงที่เคยเป็นที่ประจักษ์แก่สายตามาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลาขาดห่างหายจากวงการบันเทิงไปไหน เพียงแต่เปลี่ยนบทบาทจากคนเบื้องหน้า มาสู่คนเบื้องหลัง ผลันตัวเป็นผู้จัดละครโชว์อีกหนึ่งความสามารถอย่างเต็มตัว
งานนี้ Sanook.com มีโอกาสได้สัมภาษณ์และพูดคุยถึงอีกหนึ่งมุมในชีวิตของ เมย์ ปทิดา ที่เจ้าตัวออกมาเล่าให้ฟังในฐานะผู้จัดละครที่ร่วมงานกับช่อง 3 เป็นครั้งแรก ในละครเรื่อง ปมเสน่หา โดยเธอยอมรับว่าเป็นอีกความท้าทายที่เครียดสุดๆ แต่เพราะใจรักจึงทำให้มีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ ส่วนเรื่องการลาขาดจากเป็นนักแสดงเลยหรือไม่ เธอเองก็ยังไม่กล้าใช้คำนั้นจริงๆ เพียงแค่ตอนนี้ยังหาโอกาสไม่เจอมากกว่า
ห่างหายจากหน้าสื่อไปนาน ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
“ชีวิตก็ดูลูกค่ะ เบื้องหลังก็เตรียมงาน คือต้องบอกก่อนว่าเมย์ก็ย้ายมาอยู่กับทางช่อง 3 กว่าจะเตรียมงาน แพลน เสนอเรื่องให้ผ่าน พอเสร็จเรื่องนักแสดง ทำบท โปรดักชั่นต่างๆ มันต้องใช้เวลาไง แต่ที่ผ่านมาก็ทำงานตรงนี้มาตลอดค่ะ”
ย้ายมาอยู่บ้านใหม่ ต้องปรับตัวเยอะไหม ?
“ไม่ค่ะ ที่นี่น่ารักมากๆ เลย ดีมากค่ะ อบอุ่น มีความสุข แฮปปี้ค่ะ”
การเป็นผู้จัดทำให้เราเครียดมากไหม ?
“เครียดไหมเหรอ มันเป็นความเครียดแต่ก็เป็นความสุขนะ เพราะเป็นงานที่เมย์เลือกที่อยากจะทำ เพราะฉะนั้นก็เป็นความเครียดที่มีความสุข มันเหมือนกับเราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ อย่างน้อยที่บอกเราไม่ได้มาทำงานเบื้องหน้า แต่อย่างน้อยเราก็ยังทำเบื้องหลังตรงนี้ที่เป็นงานที่เราชอบ ก็ยังได้สัมผัสกับกองถ่าย นักแสดง บทบาท อะไรแบบนี้อยู่ค่ะ”
มาทำงานเป็นคนเบื้องหลังเต็มตัว เคยคิดถึงบทบาทการเป็นนักแสดงเบื้องหน้าไหม ?
“ก็เคยนะคะ นึกถึงเหมือนกัน แต่พอเราได้มาทำตรงนี้แบบนี้ ก็ชอบเหมือนกันนะ คือชอบอยู่ข้างหลัง เหมือนเราได้เป็นคนบอกคนอื่นว่าต้องเป็นแบบนี้ แบบนี้ แบบนี้ อะไรแบบนี้ ได้ทำในสิ่งที่เราต้องการบอก โดยที่แต่ก่อนเราจะเป็นฝ่ายที่เขามาบอกให้เราเป็นแบบนี้ แบบนี้ใช่ไหม แต่อันนี้เรามาบอกให้เขาเป็นอย่างนั้น เป็นแบบนี้ พยายามอยากให้เขาดีดั่งใจ อยากให้เขาสวยหล่อเป็นแบบนั้นแบบนี้ ถามว่าเราคิดถึงไหม ก็คิดถึงเบื้องหน้า แต่แบบนี้ก็ชอบนะ ชอบแบบนี้”
เมย์ ปทิดา ร่วมงานกับช่อง 3 ในฐานะผู้จัดละครเป็นครั้งแรก
ยังรับงานแสดงเบื้องหน้าอยู่ไหม หรือลาไปอยู่เบื้องหลังเต็มตัวเลย ?
“ไม่กล้าบอกว่าลาแล้วอ่ะ แต่ยังหาโอกาสไม่เจอดีกว่าที่จะอยู่ข้างหน้าขนาดนั้นนะ ในด้านการแสดงนะ”
มีคนมาชวนบ้างไหม ?
“ก็มีค่ะ มีติดต่อมาให้เล่น แต่ว่าก็ยังไม่พร้อม ยังไม่พร้อมที่จะเอาเวลาไปเล่นละคร เพราะหนึ่งคือเมนหลักของเมย์ก็คือเป็นคุณแม่ต้องดูแลลูก สองเมย์มีธุรกิจของเมย์ที่เป็นการค้าขาย และอีกอันคือเป็นผู้จัด เพราะฉะนั้นเมย์ก็จะต้องมีการประชุม มีการเตรียมงาน คิดนั่นคิดนี่ คือทั้งหมด 3 อย่างนี้ก็เต็มที่แล้ว แล้วถ้าเมย์มาทำอันที่ 4 คือมาทำงานข้างหน้า เล่นละครยาวๆ แบบนี้ เมย์คิดว่าไม่น่าได้”
เห็นว่าตัดต่องานจนตาแตกเลย ?
“ใช่ ก็คือนั่งทำ นั่งตัด นั่งดู คือมันก็ลุ้นเนอะ เพราะเราทำอะไรเองทุกอย่างเลย ทั้งโปรดักชั่น ควบคุม ดูแลทุกอย่างเลย อยู่ดีๆ ก็ไม่เข้าใจ คือตอนแรกไม่คิดนะ เพราะอยู่ดีๆ ตื่นมาเห็นเส้นเลือดในตาแตก เราก็แบบเกิดอะไรขึ้น พอดูก็ อ้าว แสดงว่าเมื่อคืนเราทำเยอะไป นั่งจ้อง นั่งดู นี่ก็เพิ่งหายนะ ยังเห็นเป็นรอยอยู่”
“ก็เลยคิดว่าหรือเราจ้องหน้าจอมากเกินไป หรือเครียด อาจจะเป็นส่วนก็ได้หรือเปล่า”
ได้ไปหาหมอไหม ?
“ไม่ได้หา หยอดตาเอา มันก็ดีขึ้นค่ะ”
น้องมายู มานั่งให้กำลังใจ แม่เมย์ ทำงาน
น้องมายูเห็นแล้วตกใจมาก ?
“ใช่ มายูเห็นก็ตกใจ อ้าวแม่ตาเป็นอะไร ทำไมเป็นแบบนี้ เขาก็เป็นห่วงแหละ และบอกเรา แม่ต้องไปหาหมอนะ ไปให้หมอดู”
“เมย์เองก็ตกใจ เพราะตอนเช้ามาไม่เคยเป็น ก็งงว่าทำไมเป็นแบบนี้ เมย์ก็ เห้ย เป็นได้ยังไง”
“ช่วงที่ตัดก็ต้องดูงาน แก้งาน และทำทั้งวัน ดู เรียงเรื่อง ทำอะไรต่างๆ และก็เช็กเทป เยอะค่ะ ทั้งวันจริงๆ อาจจะใช้สายตาเยอะไป”
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook
