หน้าแรก การเมือง “ประวิตร” พอใจคุณภาพสิ่งแวดล้อมดีขึ้น

“ประวิตร” พอใจคุณภาพสิ่งแวดล้อมดีขึ้น

246
แชร์ข่าวนี้

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่5/2565 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมประชุม ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด

โดยที่ประชุมรับทราบรายงานภาพรวมสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม ปี 65 ดีขึ้น โดยมีพื้นที่เพาะปลูกเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้น ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรประมงเพิ่มขึ้น และการใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น สถานการณ์ที่ควรติดตามเฝ้าระวัง เช่น ปริมาณการนำเข้าปุ๋ยเคมีและวัตถุอันตรายทางการเกษตร ปริมาณขยะพลาสติก ของเสียอันตราย มูลฝอยติดเชื้อเพิ่มขึ้น และธรณีภัยพิบัติเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งรับทราบผลการดำเนินงานบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ ตามแผนการปฏิรูปประเทศ พบว่าเขตควบคุมมลพิษ 18 พื้นที่ ใน 13 จังหวัด ไม่มีพื้นที่ใดมีความพร้อมในการยกเลิกเขตควบคุมมลพิษในปี 65 โดยมีพื้นที่หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เป็นที่เดียวที่มีความพร้อมยกเลิกในระยะไม่เกิน 3 ปี

ทั้งนี้ ต.หน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี และจังหวัดระยอง ยังอยู่ในสถานะมีความพร้อมน้อย ปัญหาภาพรวมจากข้อจำกัดงบประมาณ รวมทั้งการกำกับดูแลไม่ทั่วถึงและเข้มงวดพอ จากนั้นได้ร่วมพิจารณาและให้ความเห็นชอบ ด้านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ที่สำคัญ ได้แก่ โครงการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานดอนเมือง โครงการโรงไฟฟ้าพระนครใต้ (ส่วนเพิ่ม) สมุทรปราการ โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ และโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมือง จังหวัดอ่างทอง

และเห็นชอบแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม ปี 66-70 แผนปฎิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 2 ปี 66-70 แผนเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองปี 66 นโยบายกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก แผนปฏิบัติการเพื่อจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ปี 67 โครงการพัฒนาศักยภาพสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัด รวมทั้งการกำหนดอัตราค่าบริการกำจัดขยะมูลฝอย ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 14 แห่ง ที่ได้รับการจัดสรรเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ได้ขอบคุณกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้ความสำคัญขับเคลื่อนงานด้านสิ่งแวดล้อมต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามขอให้ยังคงติดตามสถานการณ์ที่ควรติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งร่วมกำกับและเข้มงวด การบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษให้เป็นไปตามแผนการปฏิรูปประเทศ โดยขอให้ทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมขับเคลื่อนแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ผ่านความเห็นชอบให้เป็นรูปธรรม

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้