ประชาชนทั่วสารทิศแห่ร่วมงานบวชลูกชายเสี่ยเจ้าของอู่ต่อรถบรรทุก นาคขึ้นกระเช้าโปรยทานจุกๆ กว่า 3.4 แสน แถมสร้อยทอง 1 สลึง 4 เส้น
วันนี้ (8 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมบัติ เพ็ญศรี และ นางสาวฐิติรัตน์ แพรประไพพันธ์ เจ้าของธุรกิจอู่ต่อรถบรรทุก ส.สมบัติ ซึ่งเป็นอู่ต่อรถบรรทุกรายใหญ่ของประเทศ ได้จัดงานพิธีอุปสมบทให้กับลูกชายตนโตของครอบครัว คือ นายวรพล เพ็ญศรี หรือ นาคบาส
โดยได้ว่าจ้างออแกไนซ์จัดสถานที่และพิธีอุปสมบท ที่บ้านเพ็ญศรี อู่ ส.สมบัติ ตั้งอยู่เลขที่ 80 ม.5 ต.ท่านัด อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ซึ่งมีพิธีปลงผมนาค และทำบุญฉลองผ้าไตร
พร้อมกันนี้ ได้ทำพิธีทำขวัญนาคตามประเพณีโบราณ ซึ่งได้ว่าจ้างนายทศพล หิมพานต์ เจ้าของเสียงแหล่ลูกคอ 9 ชั้น และศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง ที่นำทีมงานหมอขวัญเสียงดีมาทำพิธีแหล่ขวัญนาคท่ามกลางแขกเหลื่อที่มาร่วมงานจำนวนมาก
ส่วนพิธีบวชได้นำนาค พร้อมด้วยพ่อแม่ นางฟ้าทางสวรรค์กว่า 20 ชีวิตขนเครื่องบวชและเครื่องอรรถบริขารขึ้นรถบรรทุกยักษ์ 22 ล้อ และรถบรรทุก 18 ล้อ นำมังกร และ สิงโต เชิดนำขบวนด้วยรถแห่ติดเครื่องเสียงแห่ออกจากบ้านไป เพื่อนำนาคไปอุปสมบทภายในพัทธสีมาวัดอมรญาติสมาคม ต.ท่านัด อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
แต่ที่สร้างความฮือฮา มีประชาชนเดินทางมาจากทั่วสารทิศ มีทั้งเด็ก วัยรุ่นวัยทำงาน และยังมีกลุ่มผู้ใหญ่ มารอแย่งเงินโปรยทาน หลังจากทราบข่าวจากสื่อต่างๆ และโซเชียล ว่าทางเจ้าภาพจะโปรยทานกว่า 3 แสนบาท และยังมีสร้อยคอทองคำอีกด้วย ชาวบ้านจึงได้ต่างพากันเดินทางมาเพื่อหวังได้เงินโปรยทาน และหวังมีโชคได้สร้อยคอทองคำแบบจัดเต็ม
หลังจากที่ขบวนแห่เดินทางมาถึงยังบริเวณด้านหน้าอุโบสถได้มีการตั้งขบวน โดยนำมังกรเชิด และสิงโต เชิดนำขบวน ตามด้วยนางฟ้านางสวรรค์ ที่ถือเครื่องอรรถบริขาร พร้อมด้วยพ่อแม่ ญาติ และผู้ร่วมงานร่วมถือเครื่องบวช ผ้าไตรจีวร โดยให้ทางขี่บนหลังม้าขาว เดินเวียนรอบอุโบสถจำนวน 3 รอบ มีรถแห่เครื่องเสียงขาดใหญ่ เล่นบทเพลงให้นางรำ และชาวบ้านที่มาร้องรำในขบวนกันอย่างสนุกสนาน
จากนั้นนายสมบัติ เสี่ยเจ้าของอู่ต่อรถบรรทุก ผู้เป็นพ่อและเจ้าภาพจัดงาน ได้นำนาคขึ้นกระเช้าที่ใช้รถเครนขนาดใหญ่ยกขึ้น ก่อนจะโปรยเหรียณที่พับและห่อเป็นรูปแบบต่างๆ จำนวน 4 หมื่นชิ้น พร้อมทั้งสลับกันโปรยธนบัตร เริ่มจากฉบับละ 50 และ 20 บาท ที่ห่อด้วยริบบิ้น และสลับกับธนบัตรฉบับละ 100, 500 บาท รวม 480 ใบ โดยให้เครนเคลื่อนย้ายไปทั่วบริเวณ
และในระหว่างที่โปรยธนบัตรซึ่งมีลมพัดอ่อนๆ ทำให้ธนบัตรปลิวไปตามลมจนชาวบ้านที่อยู่ด้านล่างต้องกรูกันแบบเบียดเสียดเพื่อแยกกัน ต่อมาได้โปรยธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 40 ใบ รวมเป็นเงิน 4 หมื่นบาท
ซึ่งชาวบ้านต่างแย่งกันแบบชุลมุนทั้งกระโดดแย่งกัน บางคนฉกกันแบบคามือ แม้จะมีผู้แย่งมาได้ ไม่หวั่นอากาศร้อนอบอ้าว แต่ทีสร้างเสียงเฮเมื่อมีผู้ที่แย่งธนบัตรฉบับละ 1,000 มาได้และมีตราปั๊ม SSB ซึ่งเป็นตราของบริษัทอู่ ส.สมบัตร ซึ่งแสดงว่าได้รับสร้อยคอทองคำ 1 สลึง 1 เส้น มูลค่าขณะนี้ประมาณ 8-9 พันบาท
ภายหลังจากที่ได้โปรยทานเสร็จ ทางครอบครัวได้นำ นายวรพล เพ็ญศรี หรือ นาคบาส เข้าไปยังภายในอุโบสถเพื่อประกอบพิธีบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ตามความตั้งใจในการขอบวช โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ได้บวชเป็นพระใหม่และเดินออกมาจากภายในอุโบสถ
สร้างความปลื้มปิติให้กับทางพ่อและแม่ รวมไปถึงญาติที่มารอบวชพระใหม่ ต่างยกมือสาธุและร่วมกันใส่บาทพระใหม่ ก่อนจะเดินทางกลับมาบ้านเพื่อประกอบพิธีสรงน้ำพระใหม่ และมีการแจกข้าวสาร จำนวน 2 ตัน 400 กระถุง ถุงละ 5 กิโลให้กับชาวบ้านและผู้ยากไร้และคนที่มาร่วมงานอีกด้วย
พร้อมกันนี้ ได้มีผู้โชคดีทีได้รับรางวัลเป็นสร้อยคอทองคำ 1 สลึง จำนวน 1 รางวัล คือ นางจุฑาทิพย์ วัย 37 ปี เป็นชาวสวน ในหมู่ที่ 6 ต.ท่านัด อ.ดำเนินสะดวก ที่มาร่วมงาน และได้ร่วมแย่งทาน มาแสดงตนพร้อมทั้งนำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท มีตราปั้ม SSB อย่างถูกต้องมาแสดงต่อเจ้าภาพ
หลังตรวจสอบพบว่าเป็นของจริง โดย นายสมบัติ เสี่ยเจ้าของอู่ต่อรถบรรทุก พ่อของพระบวชใหม่เป็นผู้มอบให้กับมือ พร้อมทั้งยืนยันว่าเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึงเป็นทองจริงสามารถจำหน่ายได้ตามราคาทองในปัจจุบัน
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook
