หน้าแรก สังคม หนุ่มเจอสัตว์แปลกๆ รูปร่างคล้ายรากไม้ แต่ขยับตัวได้ ชาวเน็ตช่วยเฉลย เตือนระวัง

หนุ่มเจอสัตว์แปลกๆ รูปร่างคล้ายรากไม้ แต่ขยับตัวได้ ชาวเน็ตช่วยเฉลย เตือนระวัง

120
แชร์ข่าวนี้

หนุ่มเจอสัตว์แปลกๆ ที่อุ้มรูปร่างคล้ายรากไม้ แต่ขยับตัวได้ อ่านคอมเมนต์แล้วขนลุก ชาวเน็ตช่วยเฉลยมันคืออะไร? 

ผู้ใช้ TikTok บัญชี @smars990 ได้โพสต์คลิปวิดีโอ โดยระบุว่า เจอสัตว์แปลก ๆ ที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก

ในคลิปผู้โพสต์หยิบสิ่งดังกล่าวขึ้นมาด้วยมือเปล่า ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับรากไม้ รูปร่างเล็กและเรียว ก่อนนำมาวางบนรถ จยย. แล้วพบว่า มันสามารถขยับตัวได้ คล้ายกับหนอน แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ทั้งสงสัยและไม่รู้เช่นกัน

ก่อนจะมีชาวเน็ตเข้ามาให้ข้อมูลว่า มันคือ “พยาธิแส้ม้า” และให้ระวังจับโดนไข่พยาธิแล้วไปจับของกินต่อ เพราะไข่มันเล็กมาก ๆ แทบมองไม่เห็น โดยผู้โพสต์บอกว่า เจอมันในตัวแมลง

โรคพยาธิแส้ม้า (Trichuliasis)

โรคพยาธิแส้ม้า คืออะไร

สำหรับ พยาธิแส้ม้า คือโรคที่เกิดจากพยาธิตัวกลมที่ชื่อ ทริคูริส ทริคิยูร่า (Trichuris trichiura) หรือที่เรียกกันว่า พยาธิแส้ม้า ที่เรียกอย่างนี้เพราะตัวพยาธิมีรูปร่างคล้ายแส้ โดยมีหัวเรียวยาวคล้ายปลายแส้ และส่วนท้ายของลำตัวอ้วนใหญ่คล้ายด้ามแส้ พยาธิตัวเต็มวัยใช้ส่วนหัวฝังอยู่ในบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนต้น พยาธิตัวผู้มีความยาวประมาณ 30-45 มม. ส่วนพยาธิตัวเมียมีความยาวประมาณ 35-50 มม.

มีการระบาดมากในเขตอากาศร้อนชื้น โดยเฉพาะในภาคใต้ ซึ่งมีฝนตกชุกตลอดปี ความชื้นสูง และมีร่มเงาจากต้นยางพารา ซึ่งแสงแดดส่องลงไปไม่ถึง เหมาะกับการเจริญของไข่พยาธิชนิดนี้ แหล่งระบาดของพยาธิแส้ม้ามักคล้ายคลึงกับของพยาธิไส้เดือนกลม จึงมักพบพยาธิทั้งสองนี้ระบาดร่วมกันเสมอ

การติดต่อของพยาธิแส้ม้าจะคล้ายคลึงกับของพยาธิไส้เดือนกลม คนติดโรคโดยการกินไข่พยาธิระยะติดต่อ ที่ปนเปื้อนเข้าไปกับอาหาร น้ำดื่ม หรือที่ติดมากับแมลงวันที่ตอมอาหาร ในเด็กเล็กที่ชอบเล่นคลุกคลีกับดิน อาจกินไข่พยาธิที่ติดมากับมือเข้าไปโดยตรง

ในผู้ใหญ่ถ้ามีการติดเชื้อไม่มาก ก็จะไม่ค่อยมีอาการ แต่ในเด็กเล็กอาจเกิดอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ อาการโดยทั่วไปที่พบคือ ปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดหัว มีไข้ต่ำได้ ในรายที่มีการติดเชื้อมาก ๆ อาจทำให้เลือดจาง อุจจาระเป็นมูกปนเลือดเรื้อรัง ปวดเบ่ง และอาจทำให้ลำไส้ปลิ้นออกมาทางทวารหนัก (rectal prolapse)

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้