หน้าแรก การเมือง ธนาธร สุดทน! จ่อแจ้งความ ม.157 กกต. ข้ามขั้นตอนส่งศาลรธน.ฟันคดีเงินกู้

ธนาธร สุดทน! จ่อแจ้งความ ม.157 กกต. ข้ามขั้นตอนส่งศาลรธน.ฟันคดีเงินกู้

642
แชร์ข่าวนี้

ธนาธร สุดทน! จ่อแจ้งความ ม.157 กกต. ข้ามขั้นตอนส่งศาลรธน.ฟันคดีเงินกู้

ธนาธร – วันที่ 13 ก.พ. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีเงินกู้ 191.2 ล้านบาทในวันที่ 21 ก.พ.ว่า พรรคจะจัดกิจกรรมเชิญสัญลักษณ์หรือไม่ ต้องหารือทีมยุทธศาสตร์พรรคก่อน แต่อย่างหนึ่งที่สบายใจเมื่อเทียบกับคดีอิลลูมินาติกับคดีเงินกู้นี้ ตนเชื่อว่าคดีอิลลูมินาติมีช่องว่างให้ศาลรัฐธรรมนูญใช้ดุลยพินิจมากกว่า เพราะมันเป็นเรื่องปฏิกษัตริย์นิยม ตีความได้กว้างและมีช่องให้ศาลใช้ดุลยพินิจได้มากจริงๆ แต่เคสนี้ช่องว่างให้ศาลชั้นดุลยพินิจมันน้อยมาก

“กกต.บอกว่าเงินกู้เป็นรายได้และตีความว่าผมผิดตามมาตรา 66 เมื่อไร คุณเถียงกับนักบัญชี นักกฎหมายทั่วประเทศ เพราะมันไม่ใช่ มันมีมาตรฐานการบัญชีรองรับอยู่ เรื่องบัญชีมันตรงไปตรงมา ดังนั้น ดิ้นตรงนี้ไม่ได้ หรือจะบอกว่าผมครอบงำพรรคได้อย่างไร ในเมื่อไม่เคยศึกษาเลยว่าพรรคผมทำงานอย่างไร อยู่ๆ มากล่าวหาว่าผมครอบงำพรรค ผมอยากจะรู้ว่าคุณจะเขียนอย่างไรว่าผมครอบงำพรรค และสุดท้ายคุณจะพิสูจน์อย่างไรว่าเงินของผม มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ผมยังเชื่อว่าไม่ผิด แต่ประมาทไม่ได้ เราไม่ได้ไว้วางใจ ส่วนจะมีกิจกรรมอะไรหรือไม่นั้น คงมีกิจกรรมกับกกต.แน่ๆ ในเรื่องฟ้อง กกต.เป็นรายบุคคล ซึ่งฟ้องก่อนศาลนัดอ่านคำวินิจฉัยได้เลย เพราะมันเข้าข่ายมาตรา 157 ชัดๆ กกต.กล่าวหาผมไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ โดยไม่แจ้งข้อกล่าวหาผม มีกระบวนการยุติธรรมที่ไหนเขาทำอย่างนี้กันบ้าง” นายธนาธร กล่าว

ด้านน.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงศาลรัฐธรรมนูญยืนยันจะมีคำวินิจฉัยยคดียุบพรรคจากเหตุกู้เงิน 191.2 ล้านบาท ในวันที่ 21 ก.พ.และยกคำร้องของพรรคที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดการไต่สวนโดยเปิดเผยต่อสาธารณะว่า เป็นการพยายามของศาลรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้เห็นว่าพิจารณาคดีอย่างความเป็นธรรม ด้วยการขยายเวลาให้กับพรรคมีโอกาสจัดทำบันทึกถ้อยคำของพยานจำนวน 17 ปากไปถึงวันที่ 17 ก.พ. โดยไม่เลื่อนการพิจารณา

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า การที่ศาลดำเนินการเช่นนั้น ตนมีข้อน่าสงสัย ดังนี้ การไม่เปิดไต่สวนแต่กลับให้ส่งถ้อยคำของพยาน 17 ปากจะก่อให้เกิดความเป็นธรรมหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเกิดข้อวิจารณ์ถึงกระบวนการพิจารณาคดีของกกต. มาตลอด เช่น การมีเอกสารหลุดและเสียงวิจารณ์ความถูกต้องในการพิจารณา แต่ศาลยังคงไม่เปิดการไต่สวนต่อสาธารณะ อีกทั้งพยาน 17 ปากส่วนใหญ่เป็นอดีตกกต.และเจ้าหน้าที่กกต. อันเป็นพยานที่พรรคไม่สามารถนำมาแสดงต่อศาลได้เอง จึงจำเป็นต้องอาศัยอำนาจของศาล ในทางกลับกันหากต่อให้พรรคทำบันทึกถ้อยคำของพยานทั้ง 17 คนได้ทันกำหนดวันที่ 17 ก.พ. ศาลจะใช้เวลาพิจารณาถ้อยคำพยานทั้งหมดอย่างถ่องแท้ได้ทัน 21 ก.พ.หรือไม่ เนื่องจากไม่ได้เลื่อนการอ่านคำวินิจฉัยออกไป

ทำไมศาลรัฐธรรมนูญยังยืนยันจะตัดสินคดี 21 ก.พ.และไม่เปิดไต่สวนสาธารณะ เรื่องนี้ซ้ำรอยเดิมมาตั้งแต่กกต.ที่มีความผิดปกติและรีบร้อนส่งศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งหมดนี้ขอให้ประชาชนจับตาว่าความยุติธรรมในคดีจะเกิดได้หรือไม่ พรรคยืนยันว่าในวันที่ 21 ก.พ.จะไม่ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ แต่จะฟังคำวินิจฉัยที่พรรค และขอเชิญชวนผู้รักความเป็นธรรมไปร่วมฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่พรรคในเวลา 15.00น.” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ส.ส.บัญชีรายชื่อขที่เป็นกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) จะลาออกก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อให้ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อในลำดับถัดไปขึ้นมาเป็นส.ส.แทน น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า จะไม่มีการลาออก เพราะพรรคมีความสุจริตใจ ทุกอย่างทำด้วยความถูกต้อง และพร้อมรับผลที่จะตามมา ถ้าจะทำให้พรรคถูกยุบก็เป็นไปตามนั้น


แชร์ข่าวนี้