นำโดรนติดกล้องขึ้นบินค้นหาจนเจอตัวหมีควาย แต่ยังจับตัวไม่ได้ ตรึงกำลังเฝ้าเวรยามทั้งคืน เช้าค่อยจับ
(12 ก.ย.63) ความคืบหน้าการติดตามค้นหาหมีควายที่ออกมาหากินและทำร้ายชาวบ้านในพื้นที่ ต.บริบูรณ์ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ได้รับบาดเจ็บในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตามแกะรอยค้นหาและใช้มาตรการต่างๆ เป็นวันที่ 6 ทั้งการปูพรมค้นหา ใช้พารามอเตอร์ขึ้นบิน และใช้อากาศยานไร้คนขับติดตั้งกล้องตรวจจับความร้อนขึ้นบิน ตั้งแต่จุดที่พบรอยเท้าในวันแรกในพื้นที่ของ ต.บริบูรณ์ อ.สีชมพู
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้พบรอยเท้าของหมีควายอยู่ในบริเวณป่าไผ่ใกล้กับลำห้วยสายหนัง ต.ดงลาน อ.ภูผาม่าน จึงได้นำกำลังออกค้นหา โดยได้นำสุนัขมาร่วมภารกิจค้นหาด้วย กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ประจันหน้ากับหมีควาย ที่บริเวณป่าอ้อย ห่างจากบ้านโคกป่ากุง หมู่ 1 ต.สีชมพู อ.สีชมพู โดยหมีควายได้คำรามขู่เจ้าหน้าที่และวิ่งไล่ จนเจ้าหน้าที่ต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน ที่หมีควายไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็น ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบบริเวณที่หมีควายหลบซ่อนอยู่ จึงนำกำลังปิดล้อมพื้นที่ แต่ก็ยังไม่สามารถเข้ายิงปืนยาสลบได้ เนื่องจากหมีควายซ่อนตัว
กระทั่งเมื่อเวลา 19.00 น. ที่เจ้าหน้าที่ฯ นำโดรนติดกล้องอินฟราเรดขึ้นบิน จึงพบว่า หมีควายนอนหลบอยู่กลางป่าอ้อยที่มีความสูงเกือบ 3 เมตร โดยมีอุณหภูมิความร้อนเป็นสิ่งชี้ชัด และจากการเปรียบเทียบอัตราการเต้นของหัวใจของวัตถุที่โดรนตรวจพบ 65 ครั้งต่อนาที รวมทั้งมีการขยับตัว จึงทำให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าเป็นหมีควายที่ค้นหา
นายอนันต์ ปิ่นน้อย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) เปิดเผยว่า ในคืนนี้เจ้าหน้าที่จะมีการจัดเวรยามเพื่อเฝ้าหมีควายไว้ก่อน โดยจะยังไม่เข้าไปจับหรือยิงยาสลบเพราะจะอันตรายเกินไปสำหรับเจ้าหน้าที่ แต่จะมีการดำเนินการตามยุทธวิธีในวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ได้นำกรงดักสัตว์พร้อมเหยื่อล่อมาติดตั้งใกล้กับบริเวณที่หมีควายหลบอยู่ ซึ่งห่างจากจุดอำนวยการชั่วคราว ประมาณ 250 เมตร รวมทั้งใช้ลวดตาข่ายปิดตามจุดที่หมีควายอาจหลบหนีไปทางอื่น ให้เหลือเฉพาะเส้นทางที่เจ้าหน้าที่จะสามารถมองเห็นได้เท่านั้น ซึ่งภารกิจทั้งหมดจะต้องทำด้วยความระมัดวังมากที่สุด
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook
