ตำรวจสกลนครโชว์ผลงานจับแก๊งตีนแมว เป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน ตระเวนปล้นทรัพย์ 2 จังหวัด ยึดของกลางมาได้ถึง 4 คันรถ รวมมูลค่าหลายล้านบาท
(10 ธ.ค.) พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.สกลนคร มอบหมายให้ พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิล รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.สายชล ปัญจชัย ผกก.สภ.วานรนิวาส ว่าที่ ร.ต.รวยรุ่ง ใครบุตร นายอำเภอวานรนิวาส พ.ต.ท.ธีรเมฐ ศรีบาง สว.สส.ฯ พร้อมชุดสืบสวน แถลงข่าวหลังจับกุมแก๊งตีนแมวมหากาฬ ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ใน จ.สกลนคร และ จ.กาฬสินธุ์ ได้ของกลางทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก
โดยเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 สร้างความเดือดร้อนในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วานรนิวาส ได้พยายามแกะรอยจากกล้องวงจรปิด จนทราบเบาะแสของคนร้าย พ.ต.อ.สายชล ปัญจชัย ผกก.สภ.วานรนิวาส จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.นามน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของ นางสาวสุวรรณี หรือ จิ๋ม อายุ 50 ปี
กระทั่งสามารถตรวจยึดของกลางที่ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์เป็นจำนวนมาก จึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร จากการขยายผลทราบว่า ยังมีผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำความผิดและยังหลบหนีอยู่อีก 2 คน คือ น.ส.ปวีณา หรือ อ้อน อายุ 25 ปี และนายธารา อายุ 41 ปี โดยทั้ง 2 คนที่หลบหนีเป็นสามีภรยากัน ปัจจุบันพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับไว้แล้ว
พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิล รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร กล่าวว่า พฤติการณ์การกระทำความผิดและเป็นที่มาของการจับกุมและออกหมายจับ คือ เกิดเหตุคดีลักทรัพย์ในเคหะสถานในพื้นที่อำเภอวานรนิวาส และพื้นที่อื่นๆ ในเขตจังหวัดสกลนคร หลายคดี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ออกสืบสวนติดตามคนร้ายตลอดมา
พฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้าย มีแผนประทุษกรรมอย่างเดียวกันคือ คนร้ายจะเลือกบ้านที่เป็นบ้านของข้าราชการ มีฐานะดี อาศัยช่วงตอนกลางวันที่ไม่มีคนอยู่บ้าน คนร้ายจะแต่งกายสวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาว ลายพราง สวมหมวก และสวมถุงมือ โดยจะเข้าบ้านของผู้เสียหายทางด้านหลัง แล้วใช้อุปกรณ์งัดแงะประตูบนหรือหน้าต่างบ้าน แล้วเข้าไปภายในบ้าน เอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไป เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ได้ใช้วิธีเฝ้าจุดตามบ้านเป้าหมาย และเฝ้าจุดตามเส้นทางที่คาคว่าคนร้ายจะผ่าน ปฏิบัติเช่นนี้ตลอดมา
ต่อมาเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา น.ส.สุกานดา ได้เข้าร้องทุกข์ ให้สืบสวนสอบสวนติดตามคนร้าย ที่ได้เข้าไปในบ้านของผู้กล่าวหา แล้วลักเอาทรัพย์สินของผู้กล่าวหาไปจำนวน 2 รายการ ประกอบด้วย นาฬิกายี่ห้อ นิกซ่อน จำนวน 1 เรือน ราคา 5,000 บาท และเงินสดจำนวนหนึ่ง ผกก.สภ.วานรนิวาส จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ,วานรนิวาส ออกสืบสวนติดตามคนร้าย
กระทั่งได้รับรายงานว่า ผู้ก่อเหตุนคือ นายธารา จึงได้สั่งการให้ไปขออำนาจศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ออกหมายค้น เพื่อไปตรวจสอบบ้านดังกล่าว เมื่อนำหมายค้นไปที่บ้านไม่พบ นายธารา และนางสาวปวีณา อยู่ที่บ้าน พบเพียง นางสุวรรณี เจ้าของบ้านที่เป็นมารดาของนางสาวปวีณา จึงได้นำตรวจค้น
ผลจากการตรวจค้นได้พบทรัพย์สิน ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดจำนวนหลายรายการ นางสุวรรณี ได้ให้การว่า ทรัพย์สินทั้งหมดนั้น ลูกเขยกับลูกสาวได้นำมาเก็บไว้ที่บ้าน ต่อมาทราบว่า นายธาราและภรรยา ได้ไปเช่าบ้านอยู่ที่ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ชุดสืบสวน สภ.วานรนิวาส จึงได้ไปขออำนาจศาลออกหมายค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว
และผลการตรวจค้นก็พบทรัพย์สินต่างๆ อีกหลายรายการ รวมทั้งชุดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่คนร้ายใช้สวมใส่ก่อเหตุ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ จากการตรวจคันบ้านทั้ง 2 หลัง มีทรัพย์สินหลายรายการ โดยผู้เสียหายชี้ยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินของตน ตรงตามรายการที่พนักงานสอบสวน สภ.ต่างๆ รับแจ้งไว้ ซึ่งมีความหลากหลายของทรัพย์สิน เช่น โซฟา ตู้เย็น ทีวี แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ พระเครื่อง สร้อย แหวน ต่างหู กล้องถ่ายรูป ไดร์เป่าผม ของเด็กเล่น ถ้วยจานชามช้อน เป็นต้น
ทั้งนี้ทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ ที่มีจำนวนมากกว่า 2,000 รายการ ต้องค้นของกลางด้วยรถกระบะ 4 คัน นำทรัพย์สินที่ตรวจค้นมาได้ทั้งหมดเก็บรักษาไว้ยัง สภ.วานรนิวาส เพื่อให้ผู้เสียหาย ทั้งในพื้นที่ อ.วานรนิวาส และอำเภออื่น มาตรวจสอบดูทรัพย์สินเพื่อยืนยันเป็นทรัพย์ในกรรมสิทธิ์ของตนเอง ซึ่งขณะนี้ได้ออกหมายจับนายธารา และนางสาวปวีณา แล้ว ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานโดยเข้ทางที่มิได้จำนงเป็นทางเข้า หรือรับของโจร สภ.วานรนิวาส
อย่างไรก็ตาม หลังมีข่าวออกไป ปรากฏว่ามีเจ้าทุกข์เดินทางมาตรวจสอบทรัพย์สินของตนเป็นจำนวนมาก และมอบดอกไม้แสดงความขอบคุณให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.สกลนคร ได้เดินทางมาให้กำลังใจ ทั้งตำรวจและผู้เสียหาย พร้อมมอบเงินให้กับตำรวจ สภ.วานรนิวาส เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน
