เป็นอีกครั้งกับความร่วมมือระหว่างไทยกับเครือ ‘อาลีบาบา’ เจ้าพ่อตลาดออนไลน์รายใหญ่ของจีน โดยก่อนหน้านี้เครืออาลีบาบา มีโครงการที่สนับสนุนสินค้าไทยให้ไปรุกตลาดจีน โดยมีแพลตฟอร์มออนไลน์ของอาลีบาบา ที่หลากหลายคอยสนับสนุน
ล่าสุดนายเหยา เหว่ย ผู้อำนวยการ เถาเป่า โกลบอล เว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์เถาเป่า มาร์เก็ตเพลส ในเครืออาลีบาบา เปิดตัวโครงการระดับโลกล่าสุด คือ ‘โกลบอล แมคเจลแลน’ เป็นโครงการที่ช่วยสร้างธุรกิจในจีนให้กับ แบรนด์เอสเอ็มอีจากทั่วโลก

เปิดโอกาสให้แบรนด์เอสเอ็มอีจากทั่วโลก นำสินค้ามาจำหน่ายในตลาดจีน ผ่านช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์ม เถาเป่า ที่มีผู้ซื้อหรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ที่เข้าถึง ผู้ติดตามผู้บริโภคจีน ที่มีอยู่กว่า 10,000 คน มาช่วยโปรโมตสินค้าผ่านโซเชี่ยลมีเดีย และไลฟ์สตรีม ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของชาวจีน และเป็นช่องทางที่เติบโตอย่างมาก
“เถาเป่าเลือกไทยเป็นประเทศแรกในการเปิดตัวโครงการแมคเจลเลนระดับโลกครั้งนี้ เนื่องจากไทยเป็นมิตรกับจีนทั้งด้านการค้าและการท่องเที่ยว สินค้าไทยเป็นที่รู้จักของคนจีน และสินค้าไทยมีคุณภาพสำหรับผู้บริโภคจีน ตลอดจนมีความหลากหลายของสินค้าไม่เหมือนใคร โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีจำนวนแบรนด์ไทยที่จำหน่ายบนแพลตฟอร์มเถาเป่าอย่างน้อย 25% ของจำนวนแบรนด์ทั้งหมดที่จำหน่ายภายในปีนี้”

สำหรับกลุ่มสินค้าของเอสเอ็มอีไทยที่เถาเป่ามุ่งเน้น ได้แก่ หมอนยางพารา ที่นอนยางพารา ผลไม้อบแห้ง และเครื่องสำอาง เพราะปัจจุบันเถาเป่ามีสินค้าไทยที่วางจำหน่ายและสร้างยอดขายได้ดีจากผู้บริโภคจีน คือ เครื่องนอน ความงาม และอาหาร
ส่วนตลาดเป้าหมายอื่นๆ ต่อไปที่จะเปิดตัว ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งสินค้าที่เป็นเป้าหมายของโครงการดังกล่าวต้องเป็นสินค้าที่เหมาะกับผู้บริโภคจีน และเป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

ด้าน นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงโครงการ ‘โปรเจค แมคเจลแลน’ โดยเถาเป่า โกลบอล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเว็บซื้อขายสินค้าออนไลน์เถาเป่า มาร์เก็ตเพลส ในเครืออาลีบาบา ว่าไทยได้รับเลือกให้เป็นประเทศแรกในการเปิดตัว โปรเจค แมคเจลแลน เนื่องจากมีความหลากหลายของสินค้าที่ไม่เหมือนใคร

โครงการมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนแบรนด์ไทย ที่จำหน่ายบนแพลตฟอร์มเถาเป่าอย่างน้อย 25% ภายในสิ้นปีนี้ โดยกลุ่มสินค้าของเอสเอ็มอีไทยที่เถาเป่ามุ่งเน้น อาทิ หมอนยางพารา ที่นอนยางพารา ผลไม้อบแห้ง และเครื่องสำอาง ส่วนตลาดเป้าหมายอื่นๆ นอกเหนือจากไทย ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย ยุโรป อเมริกาเหนือ
นายเหยา เหว่ย กล่าวว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ของจีนนิยมใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และเชื่อว่าสินค้าไทยจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้ ปัจจุบันประเทศไทยมีแบรนด์จำนวนมากที่ผลิตสินค้าที่น่าสนใจแต่กลับยังไม่เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ
การจับคู่แบรนด์เหล่านี้กับเครื่องมือต่างๆ บนแพลตฟอร์มของเถาเป่า เช่น เครื่องมือดิจิตอล ข้อมูลเชิงลึก และการสนับสนุนจากบายเออร์มืออาชีพที่เชี่ยวชาญในการค้นหาความต้องการของลูกค้าจีนและจุดประกายให้ผู้ติดตามทดลองสิ่งใหม่ๆ จะเป็นทางลัดให้แบรนด์เอสเอ็มอีของไทยก้าวเข้าสู่เถาเป่า มาร์เก็ตเพลส ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์บนมือถือที่ใหญ่ที่สุดของจีนได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับ ‘โปรเจค แมคเจลแลน’ ตั้งชื่อตามนักสำรวจชาวโปรตุเกส เฟอร์ดินาน แมคเจลแลน ซึ่งเดินทางรอบโลกได้สำเร็จเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์
พร้อมกันนี้เถาเป่า โกลบอล ยังผลักดันการสร้างกลุ่มบายเออร์ในประเทศไทย โดยได้ร่วมมือกับ Thailand Zonet Buyers Development Alliance อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ก่อตั้งโดยบายเออร์ของเถาเป่า โกลบอล ในประเทศไทย
ปัจจุบันกลุ่มนี้มีสมาชิกบายเออร์ในไทยมากกว่า 100 คน และตลอดทั้งปีนี้จะทำงานร่วมกับเถาเป่า โกลบอล เพื่อนำเสนอแบรนด์ไทยที่น่าสนใจไปยังลูกค้าของเถาเป่าในจีนให้มากขึ้น
รวมทั้งช่วยผลักดันการส่งออกของไทยผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น แคมเปญการตลาด การอบรมบายเออร์ และการจับคู่บายเออร์กับแบรนด์ เป็นต้น
เถาเป่า โกลบอล มีบายเออร์เกือบ 400 คนในประเทศไทย ซึ่งสินค้าไทยที่มีวางจำหน่ายมากที่สุดบนเถาเป่า โกลบอลคือเครื่องนอน ความงาม และอาหาร
ปัจจุบันมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซ ทั่วโลกอยู่ที่ 3.55 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 20.7% ซึ่งตลาดอีคอมเมิร์ซในจีนมีมูลค่า 1.93 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 54.7% ของตลาดอีคอม เมิร์ซทั่วโลก จากจำนวนประชากร 1,400 ล้านคน