นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยได้หารือกับสมาคมการค้าและผู้ส่งออกไทย เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกไทยในปี 63 เบื้องต้นคาดการณ์ว่า ไทยจะสามารถส่งออกได้ 241,894 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบ 1.77% เมื่อเทียบกับปี 62 ที่ติดลบ 2.65% เพราะมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อการส่งออก เช่น ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว, ภัยแล้ง, การแข็งค่าของเงินบาท, ไวรัสโคโรนา เป็นต้น ดังนั้น หากต้องการผลักดัน ให้ส่งออกไทยขยายตัวเป็นบวก หรืออย่างน้อยไม่ติดลบเมื่อเทียบกับปี 62 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องสนับสนุนให้เงินบาทอยู่ระดับ 32 บาทต่อเหรียญ จากปัจจุบันที่เริ่มอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 31 บาท ต่อเหรียญแล้ว
“ภาคเอกชนได้หารือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศถึงสถานการณ์ส่งออกสินค้าไทย ในแต่ละสินค้า แต่ละประเทศ ซึ่งภาคเอกชนมองว่า ปี 63 มูลค่าส่งออกไทยน่าจะติดลบจากสารพัดปัจจัยเสี่ยง และคาดว่ากรมจะนำข้อมูลของภาคเอกชนไปพิจารณาร่วมกับข้อมูลของทูตพาณิชย์อีกครั้งก่อนที่กระทรวงพาณิชย์จะตั้งเป้าหมายมูลค่าส่งออกในปี 63 อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนพร้อมสนับสนุนในกิจกรรมต่างๆของกระทรวงพาณิชย์อย่างเต็มที่ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการส่งออกไทย”
สำหรับข้อมูลการประเมินของสมาคมการค้าและผู้ส่งออกสินค้าแต่ละประเภท คาดว่าสินค้าเกษตรมีมูลค่าส่งออก 40,106 ล้านเหรียญ ลดลง 0.94% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ข้าว มูลค่า 4,210 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 0.12%, ยางพารา 3,935 ล้านเหรียญ ลดลง 5%, ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 2,215 ล้านเหรียญ ลดลง 15%, อาหาร 23,280 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 2.56%, น้ำตาล 2,500 ล้านเหรียญ ลดลง 16.28% เป็นต้น
