เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 17 ก.พ. พ.ต.ท.พีรกุล แฝงฤทธิ์หลง สว.สอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งพบศพชายเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน อยู่ภายในบ้านพักในพื้นที่ ม.3 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา
ภายในบ้านเลขที่ 88/331 ม. 3 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน ลักษณะเป็นบ้านพักชั้นเดียว ประตูหน้าบ้านถูกล็อกด้วยกุญแจ ประตูภายในบ้านล็อกจากด้านใน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการงัดประตูเข้าไป ตรวจสอบภายในห้องนอน บนเตียงพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ชื่อนายสุภเกส สาระบุญ อายุ 35 ปี เป็นชาว ต.ยางโยภาพ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี สภาพเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน สภาพศพขึ้นอืด ไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงฟุตบอลสีดำ ใกล้ตัวบริเวณแขนขวา พบโทรศัพท์มือถือเสียบชาร์จแบตอยู่กับปลั๊กข้างเตียง และมีหูฟังเสียบไว้พาดอยู่บนแขนขวา ไม่มีร่องรอยการต่อสู้
สอบถามนายสุรวุฒิ สุขปัญญา อายุ 36 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวคนเดียว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้โทรไปชวนมาดื่มเบียร์หน้าบ้านก็ไม่รับ ก็เอะใจแต่ไม่ได้คิดอะไร เพราะยังเห็นโพสต์สุดท้ายในเฟซบุ๊กของผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 ก.พ. เวลาประมาณ 00.36 น. พอมาวันนี้เมื่อช่วงเย็น แฟนเก่าผู้เสียชีวิตทักแชตมาบอกว่า ผู้ตายไม่มาทำงาน 3 วันแล้ว ให้มาดูที่หน้าบ้านให้หน่อย
นายสุรวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนตะโกนเรียกตั้งแต่บ่าย 3 ก็ไม่เปิด และไม่ตอบรับอะไรเลย แต่เริ่มได้กลิ่น ก็ไม่กล้าพูดอะไร เพราะมาคนเดียวก็กลัว ไม่กล้าทำอะไร จึงโทรตามเพื่อนบ้านอีกคนให้รีบกลับมาเพื่อเข้าไปดูด้วยกัน พอน้องมาถึงก็ค่ำแล้ว กลิ่นหนักกว่าเดิม จึงปีนเข้าไปดู
“พอเปิดหน้าต่างกลิ่นก็ทะลักออกมา เลยมั่นใจว่าเสียชีวิต จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ส่วนตัวสนิทกันเพราะอยู่บ้านใกล้กัน เห็นล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ ปกติเขาเป็นคนชอบออกกำลังกาย เตะบอลกับเพื่อนๆ ประจำ กลับตี 1 ตี 2 ประจำ” นายสุรวุฒิ กล่าว
เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่จริง อาจจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าที่มาจากโทรศัพท์มือถือที่เสียบชาร์จอยู่ หรืออาจเกิดหัวใจล้มเหลวฉับพลัน จึงให้อาสาสมัครสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
