หน้าแรก สังคม “เนส” สาวประเภทสองทำร้ายสุนัข “น้องนมเย็น” ปล่อยโฮ แฉถูกมูลนิธิบิดเบือน

“เนส” สาวประเภทสองทำร้ายสุนัข “น้องนมเย็น” ปล่อยโฮ แฉถูกมูลนิธิบิดเบือน

439
แชร์ข่าวนี้

“บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” พิธีกรรายการ “เคลียร์ให้จบ” ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.15 น. และ 14.00 น. ทางช่อง New18 วันนี้ (9 พ.ค.) เปิดใจสัมภาษณ์ “เรยา” มือถ่ายคลิป สาวประเภทสองทำร้ายสุนัข “น้องนมเย็น” จนกลายเป็นข่าวดังสนั่นโซเชียล รวมทั้งโฟนอินสัมภาษณ์ “เนส สิริวีฐ์” เจ้าของน้องนมเย็นถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

สภาพจิตใจเป็นไงบ้าง?

เนส : “ในเรื่องของการที่ศาลมีการตัดสินออกมา หนูยอมรับในเรื่องความผิดทั้งหมด เพราะว่าตอนอยู่ในศาลหนูบอกว่าหนูยอมรับทุกความผิด ทุกบทลงโทษ หนูเข้าใจว่าเป็นคดีของสังคมด้วย หนูยินดีทุกอย่าง เรื่องความผิด เรื่องการตัดสินหนูยอมรับทั้งหมด เรื่องกระแสโซเชียลโจมตีหนูก็ยอมรับ แต่ที่ไม่โอเค คือเรื่องน้อง หนูร้องไห้ตอนที่เราดูคลิปวิดีโอจากทีมมูลนิธิ เรารู้ว่าน้องอยู่ในที่ปลอดภัย แต่มันห่าง ทุกอย่างในบ้านถูกมูฟออกไปหมดเลย”

ปกติตีหมาแบบนี้หรือเปล่า?

เนส : “ไม่เคยทำรุนแรงแบบนี้ มีครั้งนี้ที่ยอมรับว่าหนูทำรุนแรงมาก โดยภาพที่ออกไปมันรุนแรงจริงๆ ค่ะ”

พอดูคลิปย้อนหลังรู้สึกตัวว่ารุนแรงไป?

เนส : “ใช่ค่ะ มันด้วยอารมณ์ด้วย วันนั้นมันหลายรอบ จนรอบสุดท้ายเราควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เรารุนแรงไป เราไม่ได้เจตนาขนาดนั้น”

วันนั้นเกิดอะไรขึ้น ถึงไปตีขนาดนั้น?

เนส : “วันนั้นด้วยอารมณ์เราจริงๆ เราผิดจริงๆ หนูยอมรับผิดทุกอย่างค่ะ มันรุนแรงจริงๆ”

คุณเรยาถ่ายคลิปเพราะอะไร?

เรยา : “ด้วยความเราสนิทกัน เรไม่ได้มาที่บ้านหลังนี้ตลอดเวลา มาหาเป็นครั้งคราว วันที่เรามา เราเห็นเพื่อนวีนหมา ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้น มันแปลก ความตั้งใจเราคือหยิบมาถ่ายให้เพื่อนที่สนิทดูว่าวันนี้มันวีนแรงมาก เราตั้งใจถ่ายคน ไม่ได้ถ่ายเหตุการณ์ว่าการตีหมาเป็นเรื่องสนุก เราไม่ได้ตั้งใจแบบนั้น”

เพื่อนโดนขนาดนี้ รู้สึกยังไง?

เรยา : “เอาจริงๆ พอคนเริ่มทักมาด่า 2-3 คน เรารู้สึกแย่ ไม่ได้รู้สึกแย่กับคนในโซเชียลเลยเพราะเราไม่เสพ แต่เราเป็นคนรักเพื่อน ฉะนั้นเราโทษตัวเองและตำหนิตัวเอง ที่เราไม่ไตร่ตรอง เราขาดสติ เราโพสต์ไปแล้วนำมาซึ่งผลร้ายต่อเพื่อน”

พอคลิปถูกกระจาย มีทั้งมูลนิธิมาเกี่ยวข้อง ถึงขนาดขึ้นโรงขึ้นศาล หมาถูกแยกจากเจ้าของ คุณเองผิดใจกับเพื่อนเจ้าของหมามั้ย?

เรยา : “ไม่ผิดใจเลยค่ะ โชคดีที่ในเรื่องร้ายๆ มีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่เสมอ คือสัมพันธ์เราแน่นแฟ้นกว่าเดิม เพราะเรารู้ว่าเวลามันเจอเรื่องราวแย่ๆ เราจะรับมือกันยังไง เราจะจูงมือให้มันผ่านสถานการณ์เลวร้ายไปได้ยังไง”

เนสโทษเพื่อนมั้ย?

เนส : “เพื่อนรีบโทร.มาหลังจากนั้น ว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ ขอโทษ เรารู้แล้วว่าเพื่อนทำ เรารู้เจตนาเพื่อน เขาไม่ได้มีเจตนาคิดร้ายกับเรา แต่เรานอยด์เพื่อน เรายอมรับ แต่ในทุกเหตุการณ์ เพื่อนอยู่ข้างๆ เรา เราบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันออกไปแล้ว และสิ่งที่เกิดขึ้นคือความรุนแรง และเป็นความผิดของเนส สิ่งที่หนูไลฟ์สดวันนั้น หลายคนก็ถามว่าทำไมต้องออกมาไลฟ์ ทั้งที่อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวมันก็จบไป”

หลังจากนี้จะเลี้ยงสัตว์อีกมั้ย?

เนส : “ตอนนี้หนูไม่พร้อมที่จะเลี้ยงอะไรเลย (ร้องไห้) ตอนนี้หนูยังทำใจไม่ได้ค่ะ”

ทำไมมีหลายมูลนิธิตีกัน?

เนส : “มันชนกันเพราะมูลนิธินึงติดต่อมาทางเรยา แล้วเขามาถึงสถานที่ก่อน ตอนเกิดเรื่องหนูอยู่ในรถแล้วทุกคนก็ประดังประเดเข้ามา หนูก็บอกว่าหนูรีบกลับบ้านเลย เพราะตอนออกมาไม่มีใครอยู่ที่บ้าน หนูก็ล่ามน้องตรงประตู กลายเป็นว่าเขาไลฟ์สดออกมา ถ่ายออกมากลายเป็นภาพเอารูปน้องตอนล่าม แล้วหนูให้เขาเข้ามาก่อนโดยที่หนูยังมาไม่ถึง แล้วภาพน้องถูกล่ามอยู่ตรงประตู”

“แต่อีกมูลนิธิสิ่งที่หนูเห็น เขาต่อว่าเราตั้งแต่แรกว่าไม่โอเคมากกับสิ่งที่เราทำ กับความรุนแรงทั้งหมด พี่จะไม่ยอม แจ้งความเนสให้ถึงที่สุด หนูก็บอกว่าหนูยินดีค่ะ น้องปลอดภัยดี เขาไม่เชื่อต้องเอาน้องไปให้เห็นว่าน้องปลอดภัยดี สิ่งที่อีกมูลนิธิได้คุย สิ่งแรกที่เขาปรารถนาคือให้เห็นชัดเจนว่าน้องปลอดภัย โดยตรวจสุขภาพจากแพทย์ ไม่ใช่จากปากเปล่าแต่อีกมูลนิธิขู่อ้างตำรวจ และต้องส่งมอบหมาให้เขาทันที”

“หลังจากนั้นหนูกลัวว่าจะเกิดความเข้าใจผิด หนูก็ขอให้มูลนิธิมังกรเป็นกลาง ส่วนมูลนิธิที่มาที่บ้านหนูยินดีที่จะร่วมเดินทางแต่ไม่ขอเดินทางไปกับใคร ขอเอาน้องไปเอง ส่วนค่าใช้จ่าย ทางมูลนิธิที่มาที่บ้านเขาบอกจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดแล้วอีกมูลนิธิที่คุยกับหนูปลายสาย เขาก็บอกว่าเขายินดีออกค่าใช้จ่าย แต่หนูแย้งไปว่า ตอนนี้เป็นหมาหนู มันเป็นความผิดหนู หนูไม่ต้องการให้ใครมาออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งนั้น”

ในเมื่อหนูเป็นคนจ่ายตังค์ ทำไมมูลนิธิระดมทุน?

เนส : “อันนี้หนูมาทราบทีหลัง ซึ่งหนูไม่โอเค ก่อนหน้านี้หนูไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเขาโพสต์อะไรไปบ้าง จนมีเพื่อนเรามาบอก ซึ่งเขาบอกว่าเขาระดมทุนเพื่อการทำงานของทีมงานเขา ซึ่งหนูกลัวคนมองเจตนาผิด เพราะที่เขาไลฟ์สด เขาไลฟ์ในส่วนของเขา เขาตัดภาพที่หนูอุ้มหมา เอาหมาเข้าห้องเอกซเรย์ ไม่ได้ติดภาพที่มูลนิธิมังกร ชลบุรี เป็นการเดินติดตามหมอเข้าไปในห้องเอกซเรย์ เขาถ่ายแค่ตอนอุ้มหมาไปชั่งน้ำหนัก แล้วบอกว่าพาหมามาหาหมอ”

อยากพูดอะไรกับมูลนิธิที่ระดมทุน?

เนส : “วันนี้หนูไม่โอเค หนูโอเคกับคนที่ทำงานเพื่อสังคม แต่อยากให้ทุกคนเป็นกลาง การเป็นมูลนิธิก็เหมือนเป็นสื่อกลางอย่างหนึ่ง เราทำงานเพื่อสัตว์ ช่วยคน ก็ต้องเป็นกลางที่สุด อย่างน้อยคุณเป็นคนรักสัตว์ คุณก็ต้องเข้าใจในมุมเจ้าของ (ร้องไห้) ต่อให้เจ้าของจะเลวร้ายแค่ไหน เหมือนแม่คนนึง ตีลูกให้ตายแค่ไหน ไม่มีใครไม่รักลูกหรอกค่ะ”

“เรายอมรับทุกอย่าง แต่สิ่งที่เขาตีแผ่ออกไป ทั้งบิดเบือนว่าเพื่อนบ้านเป็นคนถ่าย ทั้งที่เขารู้ว่าคนถ่ายเป็นเพื่อนหนู เขาบอกว่าคลิปจากบ้านเพื่อน เราเห็นภาพการทำงานสองมูลนิธินี้ มันชัดเจนที่สุด ไม่อยากพูดให้มากมายกว่านี้”

“แต่นอกเหนือจากตรงนี้แล้วเกิดขึ้นลามไป กลายเป็นว่ามูลนิธิที่เขาช่วยน้องนมเย็นจริงๆ และเป็นกลางจริงๆ เขาเดือดร้อนไปด้วย  แม้กระทั่งมูลนิธิที่เขามาถึงบ้านก่อนแล้วบอกว่าเขาเป็นคนพาหมาไปหมอ หมาปลอดภัยดีแล้วเขาถึงกลับบ้าน อันนี้ก็ไม่เป็นความจริง เพราะตอนน้องอยู่ในห้องเอกซเรย์ออกมา เขาก็กลับแล้วเพราะเขากลัวไม่ทันเคอร์ฟิว เขาขอกลับก่อน”

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้