หน้าแรก การเมือง เอาจริง! อนค.เดินหน้า ยกเลิกเกณฑ์ทหาร นิรโทษกรรมให้ “คนเคยหนีทหาร”

เอาจริง! อนค.เดินหน้า ยกเลิกเกณฑ์ทหาร นิรโทษกรรมให้ “คนเคยหนีทหาร”

522
แชร์ข่าวนี้

อนาคตใหม่ เอาจริง! แก้พ.ร.บ.เกณฑ์หทาร-ปฏิรูปกองทัพ ใช้วิธีสมัครใจ สอบคัดเลื่อนขั้นได้ถึง ‘พันโท’ ตั้งกติกาห้ามดึงตัวทำ ภารกิจอื่น พร้อม “นิรโทษกรรม” คนเคยหนีทหาร

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 พ.ย. ที่รัฐสภา เกียกกาย พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า

พรรคอนาคตใหม่นำเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรับราชการทหาร แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.การรับราชการทหารเดิม ประเทศไทยมีการเกณฑ์ทหารมาประมาณ 100 ปี ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงกันใหม่ นโยบายนี้เป็นการปฏิรูประบบการรับราชการทหารของทหารกองประจำการ และการปฏิรูปกองทัพ

เราจะไม่แตะต้องการเกณฑ์ทหารแบบเดิม แต่จะเปลี่ยนในประเด็นคือ 1.อายุคนเกณฑ์จาก 21 ปี มาเป็น 18 ปี 2.จะเกณฑ์เฉพาะช่วงที่มีภัยสงคราม เมื่อจะมีภัยสงครามคณะรัฐมนตรีมีอำนาจเรียกเกณฑ์ทหารได้ ซึ่งสามารถเกณฑ์ได้เพียง 1 ปีเท่านั้น คือ ฝึก 3 เดือนเป็นขั้นต้น ฝึกอีก 3 เดือนเป็นขั้นสูง และรอดูสถานการณ์อีก 6 เดือน ว่าจะมีสงครามต่อหรือไม่ และดำเนินการต่อไป

หากเป็นภาวะปกติอย่างทุกวันนี้ เราไม่อยากให้ญาติของคนที่มีกำลังผลิตอยู่ในพื้นที่ และบุตรหลานไม่มีความพร้อมมาถูกเกณฑ์ เราจะใช้การสมัครใจ โดยให้สิทธิ์สมัครทั้งหญิง ชาย ทุกเพศ จนถึงอายุ 40 ปี และมีเงินเดือนสวัสดิการต่างๆ เหตุผลคือเราจะเพิ่มการฝึก และสร้างความชำนาญ จาก 2 ปี เป็น 5 ปี เดิมนั้นเวลา 2 ปี จะใช้งานได้เพียง 1 ปีครึ่ง ถ้าหากเปลี่ยนเป็น 5 ปีก็ไม่จำเป็นต้องเกณฑ์คนจำนวนมาก แต่มีความชำนาญสูง งบประมาณก็จะเหลือไปเพิ่มเงินเดือน ถึงสิบโทกองประจำการ ให้มีทุนการศึกษาเรียนต่อ มีสวัสดิการให้ครอบครัว รวมถึงมีกองทุนให้สำหรับออกไปประกอบอาชีพ

พล.ท.พงศกร กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันเราก็อยากได้ทหารกองประจำการที่มีขีดความสามารถ และความรู้สูง ทำหน้าที่ป้องกันประเทศชาติ เกณฑ์ 5 ปีก็สามารถต่อได้อีก 5 ปี แต่ถ้าใครไม่อยากต่อแล้วสามารถขึ้นเป็นทหารกองประจำการปกติ คือ นายทหารประทวนและนายทหารสัญญาบัตรได้ ต่อเนื่องไป

เราจะจัดให้มีการสอบทุก 5 ปี และเกษียณที่อายุ 46 ปี และเป็นได้ถึงยศพันโท เราต้องการผู้บังคับบัญชาที่เป็นมืออาชีพจริงๆ ที่จะมาทดแทนกำลังทหารที่ต้องอยู่จนเกษียณอายุ พูดง่ายๆ คือ หากเป็นจ่าสิบเอก จากนั้นก็ขึ้นเป็นร้อยโท ร้อยเอก พออายุ 50 ปีก็คงจะวิ่งไม่ไหว และทำการรบได้ยาก เราต้องการคนหนุ่มคนสาวมาทำการรบและมีวิธีการคิด

“เราต้องการที่จะป้องกันเหตุครหาที่บอกว่า เป็นหทารแล้วจะถูกละเมิดสิทธิ์ ถูกรังแก เราก็จะตั้งกติกาไว้ว่าห้ามละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และห้ามนำทหารไปใช้ในภารกิจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานทหาร โดยเราจะทำการฝึกรวมกลาง ไม่ใช่ต่างคนต่างฝึก เราจะให้มีผู้รับผิดชอบอยู่ที่ศูนย์กลาง ที่จะเข้าไปตรวจการฝึกทุกที่ว่าเกิดเหตุอะไรที่ไหนบ้าง เพื่อเป็นความมั่นใจว่าทหารจะมีความปลอดภัย” พล.ท.พงศกร กล่าว

“นอกจากนี้เราจะบังคับให้เกิดการฝึกที่มีประสิทธิภาพ ที่จะดูแลสวัสดิภาพความปลอดภัย บนกติกาที่เป็นสากลให้เป็นเหมือนทหารของต่างประเทศ ประเด็นสุดท้ายคือ จะใช้ระยะเวลา 1 ปีในการเปลี่ยนผ่าน โดยช่วงเวลานี้จะมีการทดแทนทหารใหม่ที่จะเข้าไปแทนทหารที่เกณฑ์ไปแล้ว ซึ่งเราจะมีการนิรโทษกรรมให้คนที่เคยหนีทหารก่อนกฎหมายจะใช้บังคับ และผู้ที่มี สด.43 ก็อาจจะเลิกใช้ เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสมัครงานอีกต่อไปแล้ว เพราะเราจะมีแต่คนที่สมัครใจมาเป็นทหาร นี่คือหลักการใหญ่ๆ ที่เราจะแก้ไขพ.ร.บ.การเกณฑ์ทหาร” พล.ท.พงศกร กล่าว

พล.ท.พงศกร กล่าวต่อว่า ตนอยากให้เข้าใจว่าตอนหาเสียงมีหลายพรรคการเมืองสนับสนุนให้เลิกเกณฑ์ทหารไปในแนวทางเดียวกัน รอบนี้จึงอยากให้พรรคการเมืองที่สนใจนำเสนอร่างพ.ร.บ.มาประกบด้วยกันได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือประชาชนต้องช่วยกันรณรงค์ว่า การเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว การเกณฑ์ การบังคับ ที่ทำให้พ่อแม่พี่น้องน้ำตาตก และการต้องพลัดพรากจากครอบครัวนั้น จะหมดไป ส่วนคนที่อยากจะเป็นทหารอาชีพก็เข้ามาด้วยความเต็มใจ นี่คือสิ่งที่ประเทศชาติควรจะเปลี่ยน

เมื่อถามว่าหากใช้วิธีการเปิดรับโดยความสมัครใจ จะมีกำลังพลเพียงพอต่อการป้องกันประเทศหรือไม่ พล.ท.พงศกร กล่าวว่า แต่เดิมเราเกณฑ์ประมาณ 5-6 หมื่นคน สมัครมา 3 หมื่นคน ปัจจุบันเกณฑ์ประมาณ 1 แสน สมัครมาประมาณ 4-5 หมื่นคน ความจริงการสมัครใจ ก็ไม่ถือว่าน้อย ประเด็นคือเราจะลดจำนวนคนลงได้อย่างไร

คำตอบคือการขยายเวลาให้ทหารมีความชำนาญเชี่ยวชาญมากขึ้น ก็สามารถทดแทนกำลังจำนวนมากได้ และเราจะมีงบประมาณเหลือไปใช้ในการเพิ่มขีดความสามารถด้านอาวุธ และด้านการศึกษา ขณะนี้พรรคอนาคตใหม่รวบรวมรายชื่อได้ครบ และจะนำเสนอต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาและนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ต่อไป




แชร์ข่าวนี้