หน้าแรก เศรษฐกิจ คลายล็อกดาวน์ดันหมูเป็นโลละ 87 บาท ราคาพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี

คลายล็อกดาวน์ดันหมูเป็นโลละ 87 บาท ราคาพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี

491
แชร์ข่าวนี้

หมูเนื้อแดงพุ่งโลละ 170–180 บาท สูงสุดรอบ 10 ปี หลังราคาหมูเป็นขยับขึ้น เผยฟาร์มแจ้งราคาขายตบตารัฐไม่เกินโลละ 79 บาท แต่ขายจริง 86–87 บาท เพราะเกรง “พาณิชย์” คุมราคา หลังเคยตกลงกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ จะงัดสารพัดมาตรการดูแลไม่ให้หมูเป็นเกิน 80 บาท จับตาอาหารใช้หมูเป็นวัตถุดิบราคาขยับตาม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนถึงสถานการณ์ราคาหมูเนื้อแดงในหลายพื้นที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 170-180 บาท จากเดิม กก.ละ 150-160 บาท ตามการปรับขึ้นของราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ กก.ละ 86-87 บาท จากเดิมที่กรมการค้าภายในเคยตกลงกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ จะบริหารจัดการให้อยู่ที่ไม่เกิน กก.ละ 80 บาท โดยราคาหมูเนื้อแดงที่สูงขึ้นนี้ น่าจะสูงสุดในรอบ 10 ปี

สาเหตุที่ทำให้ราคาหมูเพิ่มขึ้น มาจากความต้องการบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น จากการที่รัฐบาลได้คลายล็อกดาวน์ มีการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้ธุรกิจต่างๆ รวมถึงโรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหาร ภัตตาคาร กลับมาเปิดมากขึ้น และเปิดเทอม ขณะที่หมูเป็นมีผลผลิตลดลง จากที่ก่อนหน้านี้เป็นช่วงหน้าร้อน หมูโตช้า และยังมีการส่งออกหมูไปจีน และประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น หลังจากจีน และเพื่อนบ้านเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกันระบาดในหมู

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบราคาหมูเป็นหน้าฟาร์ม พบว่า ฟาร์มเลี้ยงหมูประกาศราคาขายสูงสุดที่ กก.ละ 79 บาท ทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นภาคตะวันตก ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ แต่ราคาขายจริงสูงกว่าราคาที่ประกาศไว้ โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 86-87 บาท และมีแนวโน้มขยับเพิ่มขึ้นเป็น กก.ละ 90 บาท หากยังมีความต้องการเพิ่มขึ้น ทั้งจากการบริโภคในประเทศ และการส่งออก

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กรมการค้าภายใน เคยตกลงกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติว่าจะช่วยกันดูแลไม่ให้ราคาหมูเป็นสูงเกินกว่า กก.ละ 80 บาท เพื่อคุมราคาหมูเนื้อแดงไม่ให้เกิน กก.ละ 150-160 บาท เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภค เพราะมีการส่งออกหมูเป็นไปขายในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถรักษาระดับราคาดังกล่าวไม่ให้ขยับขึ้นได้นาน 4-5 เดือน แต่ปัจจุบัน บริหารจัดการไม่ได้แล้ว เพราะความต้องการเพิ่มสูงขึ้นมาก

สำหรับมาตรการที่เคยตกลงกันไว้ หากราคาหมูเป็นในประเทศขยับขึ้นเกิน กก.ละ 80 บาท จะใช้วิธีการจำกัดการส่งออก เพื่อให้หมูเป็นในประเทศมีเพียงพอ ส่วนราคาหมูเนื้อแดง จะแทรกแซงราคาขายปลีก โดยร่วมมือกับผู้ค้าตรึงราคาจำหน่าย โดยกรมการค้าภายในจะจัดหาวัตถุดิบให้ และร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า ร้านธงฟ้า ที่มีอยู่ทั่วประเทศเป็นจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถหาซื้อหมูเนื้อแดงได้ทั่วถึง ซึ่งต้องรอดูว่า หลังจากนี้ กรมการค้าภายในจะมีมาตรการดูแลราคาหมูในประเทศอย่างไร ไม่ให้สูงเกินไปจนประชาชนเดือดร้อน

อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถดูแลราคาหมูเนื้อแดงให้อยู่ในระดับราคาปกติ ที่ กก.ละ 150-160 บาทได้ จะส่งผลให้ราคาอาหารที่ใช้หมูเป็นวัตถุดิบ เช่น หมูทอด หมูแดดเดียว กุนเชียง เป็นต้น อาจปรับราคาขึ้นได้ ซึ่งขณะนี้ร้านอาหารหลายราย แจ้งกับลูกค้าแล้วว่า หากราคาหมูเนื้อแดงยังสูงต่อเนื่อง จะขอปรับขึ้นราคาอาหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 7-14 ก.ค.63 ราคาสินค้าปศุสัตว์มีแนวโน้มยืนแข็ง เพราะการคลายล็อกต่างๆ ส่งผลให้ร้านอาหาร ตลาดสด และห้างสรรพสินค้า เริ่มกลับมาดำเนินการได้ ทำให้การบริโภคเริ่มดีขึ้น โดยราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์มของสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อแข็งตัวอยู่ที่ กก.ละ 34 บาท ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติยืนแข็งที่ กก.ละ 76-80 บาท เพราะการส่งออกดีขึ้น ประกอบกับเวียดนามเตรียมเปิดตลาดนำเข้าหมูขุนจากไทย รวมถึงการคลายล็อกที่ทำให้กิจการร้านอาหารต่างๆกลับมาเปิดได้อีกครั้ง ส่วนราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มทรงตัวอยู่ที่ฟองละ 2.60 บาท

cr. ไทยรัฐ


แชร์ข่าวนี้