วิธีคำนวณใช้สิทธิ์คนละครึ่ง 3,000 บาท ราคาเท่าไหร่เราก็ใส่เงินเข้าแอปฯ เป๋าตังเข้าไป แต่รัฐจะช่วยสูงสุดวันละ 150 บาทเท่านั้น
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยยอดลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งว่า ขณะนี้อยู่ที่ 6,733,557 คน ในจำนวนนี้ผ่านการตรวจสอบและได้รับสิทธิ์จำนวน 6,402,927 คน เหลือสิทธิ์อีก 3 ล้านคน
โดยผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์จากนั้นให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเป๋าตังพร้อมยืนยันตนให้เรียบน้อยก่อนจะเติมจำนวนเงินเข้าไปในแอปฯ เป๋าตัง เท่าใดก็ได้ ก่อนจะนำสิทธิ์ไปใช้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งผ่านทางแอปฯ ถุงเงิน
ส่วนกรอบระยะเวลาการใช้สิทธิ์คนละครึ่งนั้นจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. – 31 ธ.ค. 63 เวลา 06:00-23:00 น. โดยรัฐจะช่วยจ่ายครึ่งหนึ่งแต่วันละไม่เกิน 150 บาท และไม่เกิน 3,000 บาทตลอดโครงการ สำหรับวิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายทำได้โดยมีตัวอย่างดังนี้
- ถ้าต้องซื้ออาหาร 200 บาท ผู้มีสิทธิ์ต้องมีเงินในแอปฯ เป๋าตัง อย่างน้อย 100 บาท เพื่อสแกนจ่ายเงินกับร้านค้า ถุงเงิน โดยรัฐจะร่วมจ่ายให้ร้านอีก 100 บาท เท่ากับ จะเหลือวงเงินร่วมจ่ายกับรัฐ 2,900 บาท
- ถ้าต้องซื้ออาหาร 400 บาท ผู้มีสิทธิ์ต้องมีเงินในแอปฯ เป๋าตัง อย่างน้อย 250 บาท เพื่อสแกนจ่ายผ่านแอปฯ ถุงเงิน กับร้านค้าที่ร่วมโครงการคนละครึ่ง ส่วนรัฐจะจ่ายให้ร้านค้า 150 บาท (เต็มเพดานในแต่ละวัน) เท่ากับจะเหลือวงเงินร่วมจ่ายกับรัฐ 2,850 บาท
ส่วนร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบเข้าร่วมโครงการและมีแอปฯ ถุงเงิน แล้ว ต้องอัปเดตแอปฯ ให้เป็นปัจจุบัน และกดปุ่มยอมรับข้อตกลง-เงื่อนไขโครงการผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวก่อนด้วย เพื่อให้พร้อมรับการสแกนจ่ายเงินด้วยแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของประชาชนได้อย่างราบรื่น
ขณะนี้มีร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงการจำนวนกว่า 300,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ซึ่งประชาชนสามารถสังเกตร้านค้าดังกล่าวจากสัญลักษณ์โครงการคนละครึ่งที่หน้าร้านค้า หรือค้นหารายชื่อและที่ตั้งร้านค้าได้จากเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com อีกทางหนึ่ง
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook